• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2561

    8 มีนาคม 2561 | Economic News
• ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์กลับ จากภาพรวมเชิงบวกของข้อมูลแรงงาน ประกอบกับทางทำเนียบขาวระบุว่า ประเทศแคนาดา และเม็กซิโก รวมทั้งบางประเทศมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการยกเว้นแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวรอผลการประชุมอีซีบีคืนนี้ ที่ถูกคาดว่าจะยังคงนโยบาย แต่อาจมีสัญญาณการเตรียมการในอนาคต

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมาที่ระดับ 89.585 จุด หลังจากลงไปทำระดับำต่ำสุด 2 สัปดาห์วานนี้บริเวณ 89.407 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ระดับ 106.04 เยน/ดอลลาร์ หลังไปทำต่ำสุดบริเวณ 105.45 เยน/ดอลลาร์

สำหรับค่าเงินยูโรยังคงไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ โดยอยู่ที่ระดับ 1.2408 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากเมื่อวานนี้ขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งบริเวณ 1.2447 ดอลลาร์/ยูโร

แม้ความกังวลเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าอาจผ่อนคลายลงไปบ้างแต่จะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์นั้นยังคงดีดกลับขึ้นได้อย่างจำกัด เนื่องจากยังมีบางส่วนกังวลถึงความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นจากท่าทีกีดกันทางการค้าของทรัมป์ในระยะยาว

• การประชุมอีซีบีในคืนนี้ มีแนวโน้มสูงที่ทางคณะกรรมการจะตัดสินใจคงนโยบายการเงินทั้งหมดไว้ดังเดิม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก FXStreet คาดการณ์ว่า ทางอีซีบีอาจมีการส่งสัญญาณบางอย่างที่ช่วยหนุนให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาได้

ซึ่งก็คือ ความเป็นไปได้ที่ทางอีซีบีจะประกาศ หรือส่งสัญญาณ การปรับเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นในด้านมูลค่าหรือระยะเวลา ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น จึงอาจหนุนให้ค่ายูโรแข็งค่าขึ้นมาอีกได้

• นักวิเคราะห์จาก BK Asset Management ประเมินว่า ไม่ว่าทางอีซีบีจะส่งสัญญาณในด้านใดเกี่ยวกับการเปลี่ยนนโยบายการเงิน ก็จะเป็นเพียงแค่การเร่งหรือชะลอการแข็งค่าของเงินยูโรสู่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์/ยูโร เท่านั้น นอกจากนี้ ตลาดได้คาดการณ์ว่าแล้วว่า ยังไงอีซีบีก็จะคงนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่สิ่งตลาดสนใจถือท่าที่ของอีซีบีที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายเป็นคุมเข้มทางการเงิน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมของอีซีบีเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบาย น่าจะยังมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายในช่วงต้นปี 2018 ค่อนข้างมาก หากแผนดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการประชุมครั้งนี้ ค่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าลงมาได้บ้าง แต่บรรดานักลงทุนก็จะมีการเข้าซื้ออีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ จึงคาดว่าการอ่อนค่าของยูโร หากเกิดขึ้น ก็จะคงอยู่ได้ไม่นานนัก

ระดับสำคัญทางเทคนิคของค่าเงินยูโร

หากค่าเงินยูโรสามารถแข็งค่าเหนือระดับ 1.2446 ดอลลาร์/ยูโร (ระดับสูงสุดของเมื่อวานนี้) ขึ้นไปได้ ก็จะมีแรงหนุนให้สามารถไปต่อได้ถึงระดับ 1.2538 (ระดับสูงสุดของวันที่ 25 ม.ค.) และ 1.2556 ดอลลาร์/ยูโร (ระดับสูงสุดของวันที่ 16 ก.พ.) อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินไม่สามารถทรงตัวเหนือระดับ 1.2385 ดอลลาร์/ยูโร (แนวรับของภาพราย 1 ช.ม.) อาจส่งผลให้มีแรงเทขายลงมาสู่ระดับ 1.2335 (เส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน) และ 1.2328 ดอลลาร์/ยูโร (แนวรับของวันที่ 6 มี.ค.)

• เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำ Morgan Stanley ประกาศว่า แผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำการลงนามในคืนนี้ ถือว่าเป็นความคิดที่ “แย่มาก”

• เศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถขยายตัวได้เร็วกว่าคาด เมื่อไตรมาสที่ 4/2017 ที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงหนุนจากรายจ่ายฝ่ายทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น จึงเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยาวนานที่สุดในรอบ 28 ปี อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง นักวิเคราะห์ก็ยังคงคาดการณ์ว่า ทางบีโอเจจะยังไม่มีท่าทีส่งสัญญาณการเปลี่ยนมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากรายจ่ายของผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่ขยายตัวได้เท่าที่คาดหวังไว้

• นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะดำเนินการตอบโต้หากจำเป็นในสถานการณ์ที่เป็นสงครามทางการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งสงครามดังกล่าวเป็นอันตรายต่อทุกฝ่าย และจีนไม่มีความตั้งใจที่จะขึ้นแทนที่สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี จีนและสหรัฐฯไม่ควรเป็นคู่แข่งแต่ควรเป็นหุ้นส่วนกัน

• ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันนี้ ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในวันก่อนหน้า ภายใต้แรงกดดันจากการผลิตน้ำมันดิบและสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงชึ้น

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.03% ที่ระดับ 64.36 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 0.02% ที่ระดับ 61.16 เหรียญ/บาร์เรล

Goldman Sachs เผยคาดการณ์การเติบโตของปริมาณอุปสงค์น้ำมันประจำปี 2018 โดยคาดการณ์ว่าปริมาณอุปสงค์จะขยายตัวสู่ระดับ 1.85 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากคาดการร์ฉบับก่อนแต่อย่างใด แม้จะมีสัญญาณว่าปริมาณอุปสงค์จะชะลอตัวก็ตาม การเติบโตของปริมาณอุปสงค์น้ำมันในไตรมาสที่ 2/2018 จึงมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com