• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผสมผสาน ท่ามกลางการตอบสนองของบรรดานักลงทุนที่มีต่อนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของประธานษธิบดีสหรัฐฯ โดยดัชนี Stoxx 600 เปิดค่อนข้างตัวทรงตัว ท่ามกลางหุ้นหลายกลุ่มเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน
• ตลาดหุ้นเอเชียปิดบวก ก่อนหน้าการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่นักลงทุนรอคอยในคืนนี้ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ยินยอมที่จะพบปะกันในเดือน พ.ค. นี้ โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดบวก 0.6%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเกาหลีเหนือที่เบาบางลงไป หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเข้าพบกันเพื่อทำการเจรจาในช่วงเดือนพ.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เป็นการปรับตัวสูงขึ้นอย่างจำกัดเนื่องจากเหล่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนก.พ.ที่จะประกาศในคืนนี้
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด+0.5% ที่ระดับ 21,469.20 จุด หลังจากที่เมื่อเช้าปรับตัวขึ้น 2.4% ที่ระดับ 21,884.45 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา จากข่าวเกาหลีเหนือ
• ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเข้าพบกันเพื่อทำการเจรจาในช่วงเดือนพ.ค.นี้ ขณะที่เหล่านักลงทุนพิจารณาผลกระทบเกี่ยวกับแผนภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.14% ที่ระดับ 3,292.96 จุด
• ตลาดหุ้นก็ดูเหมือนจะยังผันผวน จากความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ที่ยังม่ีอยู่ ที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิดสงครามทางการค้า, การลาออกของที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างนาย แกรี โคห์น, การปราศจากการระดมทุนของแผนภาษีและงบประมาณค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจทำให้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดคนใหม่วิตกกังวลต่อทิศทางการดำเนินงานภายใต้การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้