• คืนวันศุกร์ราคาทองคำรีบาวน์กลับจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังอัตราค่าแรงชะลอตัวจึงบดบังกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ลงไป
• ราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวบริเวณ 1,321.99 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ของตลาด COMEX ปิดปรับขึ้น 2.3 เหรียญ คิดเป็น +0.2% ที่ระดับ 1,324 เหรียญ
• ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาดีขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง แต่ข้อมูลค่าแรงที่ชะลอตัวอาจส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อจึงอาจส่งผลต่อแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้ แต่ข้อมูลค่าแรงที่ชะลอตัวอาจจะเป็นอุปสรรคในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจำนวน 4 ครั้งปีนี้ แม้ว่าภาพรวมตลาดแรงงานจะแข็งแก่รง แต่การเพิ่มขึ้นของค่าแรงจะเป็นตัวหนุนให้เงินเฟ้อปรับขึ้นได้ตามเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด
• นักกลยุทธ์การตลาดจาก RJO Futures กล่าวว่า ราคาทองคำดูเหมือนจะมีการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น แม้ว่าในกราฟจะเห็นถึงภาวะ Over-sold ขณะที่แรงกดดันตลาดในขณะนี้มาจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
• ผู้อำนวยการนักเศรษฐศาสตร์จาก Mizuho Securities กล่าวว่า ข่าวการจ้างงานที่แข็งแกร่งอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ และมองว่าเฟดยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปีนี้
• หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Julius Baer กล่าวว่า หากข่าวเกี่ยวกับการยินยอมพบกันระหว่างนายทรัมป์-เกาหลีเหนือเกิดขึ้นก็จะเป็นปัจจัยที่กดดันทองคำได้ เพราะดูเหมือนสถานการณ์ความตึงเครียดนั้นจะผ่อนคลายลง
• อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าว อาจจะไปสกัดปริมาณความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องมาตลอดในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ หากผลสรุปที่ออกมาเป็นไปในเชิงบวก
• กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 833.73 ตัน ติดต่อกัน 3 วันทำการ
• ราคาซิลเวอร์ปิด +0.6% ที่ระดับ 16.60 เหรียญ และส่งผลให้ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับขึ้น +0.6% ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +1% ที่ระดับ 961.4 เหรียญ ปิดสัปดาห์ที่ +0.4% และราคาพลาเดียมปิด +1.6% ที่ระดับ 992 เหรียญ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์เป็นไปเช่นเดียวกับทองคำที่ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ