สำหรับการลงทุนในทองคำ จะเห็นได้ว่า แพทเทิร์นกราฟของทองคำชี้ให้เห็นถึงแรงเทขายก่อนทราบการตัดสินใจของผลการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งนักลงทุนน่าจะรอพิจารณาคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Capital Economics กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณจาก OIS และ Fed Funds Futures ก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะการันตีเกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจำนวน 0.25% ในคืนวันที่ 21 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ดี ถึงข้อมูลการจ้างงานจะเพิ่มสูงขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นของค่าแรงที่น้อยกว่าคาดที่ระดับ 0.1% ในเดือนก.พ. ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายราย ระบุว่า การปราศจากปัจจัยด้านค่าแรงก็จะส่งผลให้เงินเฟ้ออาจไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้
นอกจากนี้ ถึงตลาดจะมีคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมี.ค. แต่การปราศจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังมีอยู่ก็ดูจะไม่อาจทำให้เฟดเปลี่ยนใจจากแนวโน้มการคุมเข้มทางการเงินในปีนี้ได้ ซึ่งหากเงินเฟ้อยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้จริง ก็ดูจะเป็นการยากที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วได้ แต่ตลาดก็คาดหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และจะส่งผลบวกต่อทองคำ
ภาพรวมทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250 – 1,300 เหรียญในระยะสั้น โดยบริเวณ 1,300 เหรียญ หากหลุดต่ำกว่าจะเป็นจุดเข้าซื้อสำคัญของทองคำ
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก DTN แนะนำให้จับตาบริเวณ 1,250 เหรียญ เนื่องจากจะเป็นจุดที่ตลาดให้ความสำคัญและมีแรงขายเข้ามาเพียงเล็กน้อย
เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนโยบายการเงินของเฟดและทองคำ
ประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย นักลงทุนในทองคำยังคงให้ความสำคัญไปยังข้อมูลเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนี CPI ของสหรัฐฯรายปีน่าจะขยายตัวได้ 2.2% ในเดืนอก.พ. ขณะที่ Core CPI คาดจะขยายตัวได้ 1.8%
ทองคำ – ค่าเงินดอลลาร์
ความเชื่อมั่นในตลาดทองคำเริ่มกลับมาเป็นขาลง หลังจากไม่สามารถกลับขึ้นทดสอบระดับสูงสุดเดิมได้ โดยนักวิเคราะห์ค่าเงินอาวุโสจาก Bank of New York Mellon กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำดูจะยังเป็นการเคลื่อนไหวไปด้วยกัน ขณะที่โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ดูจะส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่ภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองดูจะเข้ากดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ โดยความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับโอกาสจะก่อให้เกิดภาวะ Trade War ได้ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ซึ่งจะมีผลภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของค่าเงินดอลลาร์ก็ยังดูเป็นขาลงในระยะยาว เนื่องจากเฟดอาจไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้ตามที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่การปราศจากเงินเฟ้อ ท่ามกลาง Trade Warและ Currency War ดูจะไม่ส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้ และก็ดูเหมือนจะไม่มีธนาคารใดต้องการให้ค่าเงินของตนเองนั้นแข็งค่า
ระดับสำคัญของทองคำที่ต้องจับตา!
ภาพขาลงของทองคำต้องจับตาที่ระดับ 1,300 เหรียญเป็นสำคัญ โดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายฝ่ายเชื่อว่า ทองคำจำเป็นต้องยืนเหนือระดับดังกล่าวให้ได้เพื่อจะกลับเป็นทิศทางขาขึ้น เพราะหาก Break ลงมา มีโอกาสเห็นทองคำทดสอบเป้าหมาย 1,287 เหรียญ และมีโอกาสเห็นทองคำที่ระดับ 1,250 เหรียญอีกครั้ง
แต่ในภาขาขึ้น ทองคำต้องยืนเหนือ 1,340 เหรียญให้ได้ จึงจะทำให้เกิดแรงเข้าซื้อครั้งใหม่ หากทองคำปิดเหนือ 1,323 เหรียญ ก็อาจส่งผลให้ทองคำทรงตัวในกรอบ และอาจเห็นทองคำปรับขึ้นได้ต่อในระยะสั้นๆ
ที่มา: Kitco