• ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 157.13 จุด คิดเป็น -0.62% ที่ระดับ 25,178.61 จุด ดัชนี S&P500 ปิด -0.13% ที่ระดับ 2,783.02 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.36% ที่ระดับ 7,588.33 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดร่วงลงจากการที่แผนภาษีนำเข้าได้สร้างแรงกดดันให้แก่ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ขณะที่ดัชนี Nasdaq ได้รับอานิสงส์จากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น
• หลังจากนายทรัมป์ ได้ลงนามแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโลหะ ก็ได้มีการประกาศยกเว้นให้แก่ประเทศแคนาดาและเม็กซิโก และกำลังมีการเจรจาเพิ่มเติมกับทางยุโรปและญี่ปุ่นเพื่อค้นแนวทางสำหรับการยกเว้น
• ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์จาก Per Stirling Capital Management กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศ คือ บริษัทภาคอตุสาหกรรมทั่วโลกกำลังจะได้รับผลกระทบและมีความกังวลว่าพวกเขาอาจเป็นเป้าหมายของการตอบโต้การคว่ำบาตร
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลดลงในเช้านี้ จากนโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่สงผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตเหล็กในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสถาบัน Wood Mackenzie ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตเหล็กในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, ไทย, แอฟริกาใต้, ออสเตรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอาร์เจนตินา มีความเสี่ยงที่จะถูกบังคับให้ออกจากตลาดสหรัฐฯ และประเทศเหล่านี้ต้องได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม เพื่อให้การส่งออกของเขามีศักยภาพในการกระจายสินค้าได้สูงสุด
• นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.25-31.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดรอตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐฯ และยอดค้าปลีกเดือน ก.พ.ของสหรัฐฯ