MTS Help Center

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯส่วนใหญ่จากรอยเตอร์ส ชี้ แผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดูจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจมากกว่าผลดี ขณะที่มุมมองการดำเนินนโยบายของเฟดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า และปีนี้น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้เพียง 3 ครั้ง ท่ามกลางอานิสงส์จากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ภาพรวมผลสำรวจเกือบ 90% จากผู้ตอบแบบสอบถาม 71 ราย ค่อนข้างจะกังวลว่าแผนการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมอาจจะนำไปสู่สงครามการค้าเป็นวงกว้าง และส่วนใหญ่มองว่าเรื่องดังกล่าวนั้น "น่ากังวลเป็นอย่างมาก"

- นักวิเคราะห์จาก BofAML กล่าวว่า ดูเหมือนสภาวะสงครามการค้ากำลังกลับมา แต่ความแตกต่างในช่วงเวลานี้ คือ สิ่งที่เห็นและความรู้สึกที่มองดูเหมือนจะเป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์การกีดกันทางการค้า ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลคือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีสัญญาณใดๆว่าจะมีการผลักดันการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเรื่องดังกล่าวจะน่าประหลาดใจมากหากไม่มีประเทศคู่ค้าหลักใดๆหามาตรการโต้ตอบ

ภาพรวมผลสำรวจเกือบ 80% จากนักเศรษฐศาสตร์ 60 รายที่ตอบแบบสอบถาม มองว่า นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้า ดูจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯมากกว่าผลดี

- นักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายการตลาดจาก Rabobank กล่าวว่า แผนเรียกเก็บภาษีนำเข้ามีแนวโน้มจะได้รับเสียงคัดค้านจากบริษัทหุ้นส่วนของสหรัฐฯ และอาจเป็นเรื่องที่ “ผิดพลาด” จากการดำเนินการจากจีน เนื่องจากพวกเขามีศักยภาพมากเพียงพอ และเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

สำหรับผลสำรวจเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดล่าสุด แสดงให้เห็นว่า เฟดอาจจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ สู่กรอบ 1.5 – 1.75% และน่าจะขึ้นดอกเบี้ยด้วยอัตรา 0.25% ได้ 3 ครั้งในปีนี้ สู่กรอบ 2.25 – 2.50% ในช่วงสิ้นปี 2018

อย่างไรก็ดี การปรับคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยของเฟดจะมาควบคู่กับการปรับทบทวนเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยเฟดมีความพึงพอใจที่จะเห็นเงินเฟ้อขยายตัว โดยเฉพาะCore PCE Price Index ที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าน่าจะช่วยหนุนให้เงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนดไว้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และค่อยๆปรับขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2% ในปีหน้า

สำหรับภาพรวมของดัชนี Core PCE Price Index ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อปีนี้ถูกคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.8% และคาดจะแตะ 2.1% ขณะที่แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้น่าจะอยู่ที่ 2.5 – 3.0% ในระดับไตรมาสของปีนี้ เมื่อเทียบจากระดับ 2.5 – 2.7% ในเดือนก.พ.

ขณะที่ค่ากลางของการขยายตัวในปีนี้จะอยู่ที่ 2.8% และปีหน้าที่ระดับ 2.4% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.7% และ 2.2% ตามลำดับ