• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากมีข่าวการปลด นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศจึงกดดันการรีบาวน์กลับของค่าเงินดอลลาร์ในช่วงต้นตลาด
ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมาที่ระดับ 106.44 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 107.30 เยน/ดอลลาร์ จากข้อขัดแย้งทางการเมืองของญี่ปุ่นที่ผ่อนคลายลงไป
นอกจากนี้ ตลาดยังคงรอการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยจะเริ่มการประชุมวันแรกวันที่ 20 มี.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในวาระการประชุมนี้ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ลงไปทำจุดต่ำสุดรอบ 6 วันทำการบริเวณ 89.565 จุด
สำหรับค่าเงินยูโรดีดกลับ 0.15% ที่ระดับ 1.2407 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งถือเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 วันทำการ
• นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า การดำเนินนโยบายของอีซีบีจะยังคงใช้ความรอบคอบ แม้ว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในอนาคตก็ตาม จากมุมมองปัจจุบันที่เรามองว่าเงินเฟ้อมีโอกาสกลับสู่เป้าหมายระยะกลาง แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังต้องรอคอยหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับตัวของเงินเฟ้อว่าจะไปถูกทิศทางหรือไม่ ดังนั้น การดำเนินนโยบายควรเป็นลักษณะอดทนรอและมีความระมัดระวังรอบคอบในการดำเนินการ
• รายงานล่าสุดจาก Politico ระบุว่า นายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ เป็นผู้เสนอแนวคิดในการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศจีนให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่คณะบริหารของทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะประกาศรายละเอียดแผนขึ้นภาษีดังกล่าว อย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้า
• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า บีโอเจอาจค่อยๆดำเนินการออกจากนโยบายการเงินฉบับผ่อนคลายพิเศษได้อย่างราบรื่น แต่ ณ ขณะนี้อาจจะเป็นการเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเงินเฟ้ออยู่ห่างจากเป้าหมายที่บีโอเจกำหนดหรือไม่
ขณะเดียวกัน บีโอเจจะเรียนรู้วิธีการดำเนินการของธนาคารหลักอื่นๆ อาทิ เฟด ที่ค่อยๆปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อออกจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าเขาและภรรยาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อขายที่ดินของรัฐบาลให้กับเอกชนแต่อย่างใด ท่ามกลางการดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ที่เป็นประเด็นความตึงเครียดในการเมืองญี่ปุ่นในขณะนี้ เนื่องจากนายอาเบะได้ประกาศยินดีจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ หากมีหลักฐานแสดงความผิดของตน
• อัตราการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในจีน ขยายตัวได้ 7.2% ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ปีนี้ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 6.1% และยังเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากเดือน ธ.ค. ที่ขยายตัวได้ 6.2% จึงช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังสามารถขยายตัวต่อได้ แม้จะมีแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจมีการออกนโยบายเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีก็ตาม
• ยอดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของจีน ขยายตัวขึ้น 9.9% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2018 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ยอดขายอสังหาฯจะชะลอตัวลง ท่ามกลางมาตรการควบคุมราคาอสังหาฯจากรัฐบาลก็ตาม
• ยอดการผลิตน้ำมันดิบในจีนปรับลดลง 1.9% หรือคิดเป็นปริมาณ 3.037 ร้อยล้านตัน ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เมื่อเดือนมิ.ย. ปี 2011
• ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสิงคโปร์เพิ่มขึ้นที่ระดับ 3.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.0% จากมุมมองการอุปโภคบริโภคของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับยอดค้าปลีกและยอดค้าส่ง
• ราคาน้ำมันทรงตัวหลังจากปรับลดลงมาติดต่อกัน 2 วันทำการ ท่ามกลางแรงหนุนจากตัวเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมาแข็งแกร่ง ที่บ่งชี้ถึงการส่งออกที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ขณะที่มีแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ทรงตัวบริเวณ 60.77 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงเพียง 6 เซนต์จากระดับปิดตลาดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวบริเวณ 64.62 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงเพียง 2 เซนต์จากระดับปิดตลาดเมื่อวานนี้