• ทางการเมืองระหว่างอังกฤษและรัสเซีย ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิด Trade War ที่เป็นปัจจัยฉุดรั้งตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,326.83 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำปรับขึ้นแถว 1,327 เหรียญ
• เทรดเดอร์ทองคำในฮ่องกง กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางการเมืองเป็นสำคัญ ควบคู่กับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และการร่วงลงของตลาดหุ้น
• โฆษกทำเนียบขาย เผยว่า ทีมบริหารนายทรัมป์อาจทำการกดดันจีนเพิ่มโดยการเพิ่มด้วยการปรับลดยอดดุลการค้ากับสหรัฐฯลงประมาณ 1 แสนล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี ภาวะตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่าอาจทำการตอบโต้กลับ หลังจาก 23 นักการทูตของรัสเซียจะถูกปลดออกจากอังกฤษ โดยคำสั่งของ นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อตอบโต้กรณีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีจากอดีตเจ้าหน้าที่ของรัสเซียในอังกฤษ
• ขณะที่ถ้อยแถลงของ นายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจคนใหม่ของนายทรัมป์ เกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ส่งผลให้นักวิเคราะห์มองในเชิงจะมาช่วยนายทรัมป์ก่อให้เกิด Trade War เพิ่มขึ้น แต่ทองคำจำเป็นต้องปิดให้ได้เหนือระดับ 1,330 เหรียญ จึงจะทำให้ทองคำเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง
• ขณะที่นายทรัมป์ จุดชนวนความกังวลของนักลงทุนเพิ่มขึ้น จากกรณีที่ว่า การมีคำสั่งปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศนั้นมาจากมุมมองที่เขาดูจะสนับสนุนต่อการค้าเสรีมากกว่า
• นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP Group กล่าวว่า ตลาดทองคำยังคงมีการเคลื่อนไหวในกรอบ โดยในตลาดเอเชียยังมีการเข้าซื้อกันเมื่อราคาต่ำกว่าระดับ 1,320 เหรียญ เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,330 – 1,335 เหรียญ โดยภาพรวมทองคำมีแนวโน้มจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบจนถึงสัปดาห์หน้าก่อนทราบผลประชุมเฟด โดยเชื่อกันว่าในการประชุมวาระนี้จะเป็นการตัดใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ จากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก
• วันนี้ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 16.54 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.5% ที่ระดับ 963.2 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 993 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำ Highบริเวณ 1,006.3 เหรียญเมื่อคืนวานนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 1 มี.ค.