• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนตัวของตลาดหุ้น หลังจากที่ไปแตะระดับต่ำสุดรอบกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนทราบผลประชุมเฟดที่มีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยและส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่สูงกว่าจำนวน 3 ครั้งปีนี้
• ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,317.49 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 1 มี.ค. บริเวณ 1,307.51 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับขึ้น 5.5 เหรียญ คิดเป็น +0.4% ที่ระดับ 1,317.8 เหรียญ
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการซื้อทองคำเข้า 10.62 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 850.84 ตัน
• ตลาดหุ้นทั่วโลกชะลอตัวหลังจากลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่พ.ย. โดยหุ้นสหรัฐฯถูกกดดันจากหุ้นบริษัท Facebook จากข้อมูลผู้ใช้งานที่มีการใช้สิทธิในทางมิชอบจึงส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัว และทำให้เกิดแรงขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
• นักกลยุทธ์อาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า ทองคำดูเหมือนจะมีแรงเข้าซื้อในลักษณะ Buy on the dip ท่ามกลางตลาดหุ้นที่อ่อนตัวจากบรรดาเหล่าเทรดเดอร์ที่มีมุมมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวาระนี้
• เหล่าเทรดเดอร์ กล่าวว่า ราคาทองคำรีบาวน์กลับหลังจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 5 ครั้ง และคาดว่าจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวาระนี้ แม้ว่าภาพรวมจะมีความเสี่ยงทางการเมือง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Trade War รวมทั้งระดับหนี้ของสหรัฐฯในปัจจุบัน
• อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 0.25% เป็นสิ่งที่ตลาดค่อนข้างจะรับรู้กันอยู่แล้ว แต่หนึ่งสิ่งสำคัญที่ตลาดให้ความสำคัญอย่างมากคือทิศทางที่เฟดจะดำเนินการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้แทนจำนวน 3 ครั้งที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่
• หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Wing Fung Financial Group กล่าวว่า ภาพรวมการฟื้นตัวเศรษฐกิจเพียงพอที่จะทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือดำเนินนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ
• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า นักเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์มีการกลับเข้าซื้อสินค้าทองคำและซิลเวอร์ ขณะที่นักลงทุนในกองทุน ETF กำลังพิจารณาราคาที่ปรับตัวลงเพื่อหาจังหวะในการเข้าซื้อ
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ระดับ 16.29 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.6% ที่ระดับ 988.5 เหรียญ และราคาแพลทินัมปิด +0.9% ที่ระดับ 951.7 เหรียญ หลังจากลงไปทำต่ำสุดบริเวณ 936.5 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 3 ม.ค.