· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางภาวะสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่เข้ากดดันค่าเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคปรับตัวขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,348.66 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 19 ก.พ. บริเวณ 1,350.76 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วปรับขึ้นได้ 2.6% ซึ่งถือเป็นระดับการปรับตัวขึ้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่ก.ย. 2017ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 1,348.8 เหรียญ
· ความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชียด้วยเช่นกัน จึงทำให้มีการเข้าถือครองค่าเงินเยนในฐานะ Safe-Haven ทำให้ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงไปมากที่สุดในรอบ 16 เดือน ทางด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.1% ลงมาทรงตัวบริเวณ 83.39 จุด
· นักวิเคราะห์ฝ่ายการซื้อขายจาก OANDA กล่าวว่า นอกจากความเสี่ยงทางการเมืองจากภาวะสงครามทางการค้า กรณีของนายจอห์น โบลตัน ที่เข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะมาเป็นความเสี่ยงให้แก่ตลาดเพิ่มขึ้นระยะสั้น เนื่องจากไม่เป็นที่พึงพอใจของอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านมีมุมมองว่านายจอห์นมีความเกี่ยวข้องกับ “กลุ่มผู้ก่อการร้าย” ในอิหร่าน
· ขณะที่เทรดเดอร์ตลาดทองคำมองว่า ประเด็นการป้องกันทางอากาศของซาอุดิอาระเบียโดยมีการยิงขีปนาวุธธจำนวน 7 ลูกใส่กลุ่มทหารฮูติของเยเมนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายและมีผู้เสียชีวิตท่ามกลางภาวะตึงเครียดทางการเมืองระหว่างซาอุดิอาระเบียและเยเมนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยทีห่นุนให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
· รายงานจาก CFTC ล่าสุดในสัปดาห์ที่สิ้นสุด 20 มี.ค. ระบุว่า นักเก็งกำไรในตลาดทองคำทำการปรับลดสถานะ Long Position ของทองคำลง 23,822 คู่สัญญาสู่ระดับ 121,838 คู่สัญญา โดยไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงกำลังเข้าซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
· ราคาซิลเวอร์ปรับตัวขึ้น 0.5% ที่ระดับ 16.6 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 948.99 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 977.1 เหรียญ