• ราคาทองคำปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,354.51 เหรียญ หลังจากที่เมื่อวานนี้ขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 16 ก.พ. บริเวณ 1,355.97 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ทรงตัวบริเวณ 1,354.6 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีการรีบาวน์หลังผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และท่ามกลางความผันผวนในตลาดที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาทองคำถูกเข้าซื้อในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
• ดัชนีดอลลาร์วันนี้ทรงตัวบริเวณ 89.043 จุด หลังลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 5 สัปดาห์บริเวณ 88.979 จุด
• การฟื้นตัวของราคาทองคำเมื่อวานนี้ยังมาจากการที่นักลงทุนตอบรับกับข่าวที่ว่าทางสหรัฐฯ จะทำการขับไล่นักการทูตจำนวน 60 รายของรัสเซีย เพื่อเป็นการเข้าร่วมมาตรการตอบโต้กับทางยุโรป เพื่อลงโทษรัสเซียกรณีใช้อาวุธเคมีเพื่อสังหารอดีตสายลับที่อาศัยในอังกฤษ
• รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า การขับไล่ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ยั่วยุต่อรัฐบาลรัสเซีย
• นักวิเคราะห์บางส่วน ยังมองว่า ประเด็นของเฟดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ยังเกื้อหนุนทองคำ เนื่องจากถึงแม้เฟดจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ก็ยังคงคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีอีกประมาณ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย ซึ่งน้อยกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะเกิดขึ้นตามมาอีก 3 ครั้ง
• นักวิเคราะห์จาก UBS จึงมองว่า ปัจจัยของเฟดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผลักดดันทองคำ และมีการปรับเพิ่มคาดการณ์รายไตรมาสขึ้นมาสุ่กรอบ 1,300 - 1,400 เหรียญและในช่วงครึ่งปี และ 1 ปี คาดการณ์ราคาเฉลี่ยไว้ที่ 1,375 เหรียญ
• ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.6% ที่ระดับ 16.75 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.5% ที่ระดับ 957 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 976.47 เหรียญ