• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวขึ้น จากความกังวลกรณี Trade War ที่คลายความตึงเครียดลงไป โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +1.3% จากหุ้นทุกภาคส่วนที่เคลื่อนไหวแดนบวก โดยภาพรวมหุ้นพื้นฐานปัรบตัวขึ้นได้เกือบ 2% ใกล้เคียงกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ตอบรับกับข่าวที่สหรัฐฯและจีนมีการเปิดกว้างสำหรับการเจรจาร่วมกัน จึงช่วยลดความตึงเครียดที่ 2 ประทศมหาอำนาจจะก่อให้เกิดสงครามการค้าโลกลุกลาม หลังจากที่ทำเนียบขาวพยายามหาทางลดข้อกำหนดการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และเรียกร้องให้จีนอนุญาตให้สถาบันการเงินต่างประเทศสามารถดำเนินการในจีนได้เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่าสูงของจีน
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรายงานการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนส่งผลให้เกิดความหวังที่ว่าสงครามทางการค้าที่อาจจะไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับขึ้น 1% ขณะที่ดัชนีกลุ่มบลูชิพปรับขึ้น 0.9%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ลดลงไป จึงช่วยหนุนหุ้นภาคการค้า รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากสัญญาซื้อขายหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด+2.7% ที่ระดับ 21,317.32 จุด
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่่งได้รับแรงหนุนจากผลกำไรที่แข็งแกร่งในบริษัท เทคโนโลยี รวมทั้งการเจรจาระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีและสงครามการค้า
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด+1%
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดกนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในการประชุมวันที่ 28 มี.ค. แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ สูงกว่าไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี แต่เชื่อว่ากนง.ต้องการรักษานโยบายการเงินที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
ส่วนแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังคงมองว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง