MTS Help Center

นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า การที่สหรัฐฯดูถูกศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีนไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก

“แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภายใต้การปกครองของทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ สหรัฐฯจึงไม่เกรงกลัวที่พวกเขาจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐฯได้มียอดขาดดุลทางการค้ากับจีนอย่างมหาศาลมาเนิ่นนานแล้ว แต่สหรัฐฯยังคงมีท่าทีอ่อนข้อให้กับจีนอยู่”

“ขณะเดียวกัน ทางรัฐบาลจีนก็มีตัวเลือกมากมายสำหรับการประคับประคองให้เศรษฐกิจดำเนินได้ตามปกติ รวมถึงมาตรการในการลดความไม่พึงพอใจของสหรัฐฯอีกด้วย การที่รัฐบาลจีนยอมเป็นฝ่ายตอบโต้ให้สอดคล้องกับท่าทีของสหรัฐฯ เป็นการแสดงถึงความหลักแหลมและความเป็นผู้นำของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนและคณะรัฐมนตรีของเขา”

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า ไม่มีฝ่ายใดที่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศต้องถูกทำลายลง จึงกล่าวย้ำให้ทั้ง 2 ฝ่ายก้าวผ่านความขัดแย้งครั้งนี้ ผ่านทางการเจรจากันอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น

“อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนมากเห็นด้วยว่า บริษัท Boeing ของสหรัฐฯ น่าจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากพวกเขามีแผนที่จะขายเครื่องบินเป็นมูลค่ากว่าล้านล้านเหรียญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทางจีนจึงอาจเปลี่ยนไปซื้อขายกับ Airbus ที่เป็นคู่แข่งของ Boeing แทน

นอกจากนี้ บรรดาผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ในสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าเช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มที่จะถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า”