• ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 1% หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการรีบาวน์กลับของค่าเงินดอลลาร์ จากข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯ แม้ว่าตลาดหุ้นที่อ่อนตัวจะช่วยหนุนการปรับขึ้นของราคา
• ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลง -1.4% ที่ระดับ 1,325.66 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 17.8 เหรียญ คิดเป็น -1.3% ที่ระดับ 1,324.2 เหรียญ
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำรวม 846.12 ตัน
• ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก Think Markets กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯดูจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำเท่าไหร่นัก แต่การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์นั้นกลับเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ ขณะที่ภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เกื้อหนุนทองคำ โดยจะเห็นได้ว่าราคาทองคำไตรมาสแรกปรับตัวขึ้นได้เกือบประมาณ 2%
• นักกลยุทธ์การลงทุนจาก U.S. Bank Wealth Management มองว่า ปีนี้ทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,300 – 1,360 เหรียญ ขณะที่เมื่อวานนี้ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,360 เหรียญ จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน จึงทำให้ราคากลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ
• นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets ปรับทบทวนค่าเฉลี่ยราคาทองคำปีนี้เพิ่มขึ้น 4% สู่ระดับ 1,327 เหรียญ โดยได้รับอานิสงส์จากการลงทุนของนักเก็งกำไรรายย่อยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความกังวลด้านเงินเฟ้อ และนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการเข้าถือครองทองคำจากความกังวลทางการเมือง
• นักวิเคราะห์จาก Kitco มองว่า ภาพทางเทคนิคของทองคำระยะสั้นเริ่มลดภาวะขาขึ้นลงไป โดยหากทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้งต้องฝ่าแนวต้าน 1,335 เหรียญ กลับมาปิดเหนือแนวต้านสำคัญทางเทคนิค 1,356.8 เหรียญ ขณะที่หากวันนี้ทองคำหลุดแนวรับ 1,320 เหรียญ ก็มีโอกาสกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 เหรียญ
• ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้เนื่องในวันหยุดเทศกาล Good Friday
• ราคาซิลเวอร์ปิด -1.4% ที่ระดับ 16.26 เหรียญ หลังจากที่ลงไปต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ระดับ 16.24 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -1% ที่ระดับ 934 เหรียญ หลังจากที่ไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 2 ม.ค. บริเวณ 930.5 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.7% ที่ระดับ 966 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดลงไปทำ Low สุดรอบ 3 สัปดาห์ บริเวณ 961.65 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวลดลงรายเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ ธ.ค. ปี 2016
Thai
Eng