• ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.04% ที่ระดับ 23,848.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.29% ที่ระดับ 2,605 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.85% ที่ระดับ 6,949.23 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงหลังจากที่ฟื้นตัวเมื่อวันก่อนหน้า จากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แม้ว่าหุ้นกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มวัตถุดิบและกลุ่มสุขภาพจะปรับตัวขึ้น จึงช่วยชดเชยการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นบริษัทอะเมซอน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังคงร่วงลงต่อ
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในเช้าวันนี้ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.85% ท่ามกลางดัชนี Topix ที่ปรับขึ้น 0.61% แต่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.07%โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, หุ้นภาคธนาคาร และหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่เปิดลดลง
• นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อวานนี้ หลังจากตลาดรับทราบมติ กนง. เงินบาทได้แข็งค่าลงไปแตะระดับ 31.18 บาท/ดอลลาร์ แต่เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา
• ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวานนี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่1.50% ต่อปี ขณะที่ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้เป็น 4.1% จากก่อนหน้าคาดไว้ที่ 3.9% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มการขยายตัวได้ต่อเนื่องและดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มปี 62 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 4.1%