• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 254.69 จุด คิดเป็น +1.07% ที่ระดับ 24,103.11 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +1.38% ที่ระดับ 2,640.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.64% ที่ระดับ 7,063.45 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นท่ามกลางตลาดที่ดูจะยุติความวุ่นวายก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของสหรัฐฯ ท่ามกลางหุ้นเทคโนโลยีที่รีบาวน์กลับขึ้นมาได้ และภาพรวมของดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์เรียกได้ว่าปิดปรับตัวลดลงในระดับไตรมาสมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
จะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปีท่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯเปิดมาด้วยความแข็งแกร่ง แต่ก็เริ่มลดภาวะการฟื้นตัวและมีการเข้าสู่ภาวะปรับฐานในช่วงที่เกิดกระแสเฟดขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมไปถึงแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
• ตลาดญี่ปุ่นและตลาดเกาหลีใต้เปิดปรับตัวขึ้นในเช้านี้ ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางจากการที่ตลาดในหุ้นกลุ่มภูมิภาคอย่าง ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, อินเดีย และอินโดนีเซีย จะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +1% โดยดัชนี Topix เปิด +0.69% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.58%
• นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.20-31.35 บาท/ดอลลาร์ โดยมีความกังวลในตลาดเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองว่าอาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้ง
• สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ก.พ.61 ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยในด้านอุปสงค์ขยายตัวได้ดีจากการส่งออกสินค้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดี จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง และปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ด้านอุปทาน พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงขยายตัวในระดับสูง และดัชนีผลผลิตการเกษตรที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง