• รายงานจาก Kitco เผยว่า บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นว่าทองคำจะมีโอกาส Break กลับขึ้นมายืนเหนือ 1,400 เหรียญ แม้จะไม่ใช่ในระยะสั้นๆนี้ เนื่องจากระยะสั้นมีโอกาสจะเห็นราคาทองคำย่อตัวลงมาก่อนจะเคลื่อนไหวในกรอบ
ขณะที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,350 เหรียญได้ หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านั้นทองคำปรับตัวขึ้นในระดับที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี และสัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ของตลาด COMEX ปิดแถวระดับ 1,327.3 เหรียญ โดยลดลงเกือบ 2% เมื่อเทียบกับวันศุกร์ก่อนหน้า
• ราคาซิลเวอร์ปิดทรงตัวที่ระดับ 16.26 เหรียญ โดยลดลงเกือบ 2% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
• กองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 846.12 ตัน
• นักวิเคราะห์บางส่วน ได้ออกมากล่าวเตือนว่า นักลงทุนในทองคำจำเป็นที่จะต้องอดทนรอในการเข้าช้อนซื้อด้วยความระมัดระวัง ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก RJO Futures คาดว่า ราคาน่าจะกลับลงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยบริเวณ 200 วัน บริเวณ 1,304 เหรียญ และน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways ไปอีกระยะ โดยจังหวะที่ดีที่ควรเข้าช้อนซื้อคือแถวระดับ 1,305 เหรียญ และมีจุด Stop Loss เพื่อระวังหากราคามีการ Break หลุด 1,300 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้วเปิดมาอย่างแข็งแกร่งและไปทำ High บริเวณ 1,356 เหรียญ ก่อนจะปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในภาพระยะสั้น และไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,321 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 21 มี.ค. ส่งผลให้ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงไป 1.7% ซึ่งแนวต้านสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ 1,355 เหรียญ และ 1,365 เหรียญ โดยจะเห็นได้ว่าราคายังไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะฝ่าแนวต้านดังกล่าวไปได้ จึงทำให้เราเห็นการสะสมพลังอยู่ในกรอบ ซึ่งหากทองคำกลับขึ้นเหนือแนวต้านได้ก็จะมีโอกาสเห็นราคาแถวระดับ 1,370 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อก.ค. ปี 2016 และระดับ 1,376 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเมื่อเดือนมี.ค. ปี 2014
ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นของทองคำมีโอกาสจะอ่อนตัวลงมา หลังจากที่ร่วงหลุดเส้นค่าเฉลี่ยราย 20 วันบริเวณ 1,329 เหรียญลงมา จึงทำให้ภาพระยะสั้นกลับมาเป็นทิศทาง Sideways หลังจากไม่สามารถ Break 1,360 เหรียญ และมีแนวรับสำคัญด้านล่างบริเวณ 1,310 เหรียญ ซึ่งหากทองคำหลุด 1,310 เหรียญลงมามีโอกาสกลับลงแถว 1,300 เหรียญ และจะทำให้ภาพกลับมาเป็นขาลง
• ตลาดการเงินกำลังรอคอยข้อมูลรายงานการจ้างงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ประกอบกับรายงานเศรษฐกิจสำคัญส่วนใหญ่ อันได้แก่ ข้อมูลความเชื่อมั่นภาคการผลิตและบริการจากสถาบันจัดการอุปทาน ISM รวมไปถึงรายงานจ้างงานเอกเชนหรือ ADP