• จีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 128 รายการจากสหรัฐฯ!

    2 เมษายน 2561 | Economic News
 

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งประเทศจีน ประกาศเมื่อวานนี้ ว่ารัฐบาลจีนจะทำการปรับขึ้นภาษีอีก 25สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯจำนวน 128 รายการ ซึ่งเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการขึ้นภาษีเหล็กและอลูนิเนียมของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดความกังวลในตลาดเกี่ยวกับโอกาสเกิดสงครามทางการค้าที่เลวร้ายยิ่งขึ้น

โดยการปรับขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯของจีนจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันนี้

ทั้งนี้ นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯของจีน ได้ปรับขึ้นภาษีของสินค้าประเภทเนื้อหมูและเศษอลูมิเนียมอีก 25% ขณะที่รายการสินค้าอื่นๆอีก 120 รายการ ซึ่งได้แก่ถั่วอัลมอนด์ แอปเปิ้ล และผลไม้อื่นๆ จะถูกปรับภาษีขึ้นอีก 15%  โดยรัฐบาลจีนได้ระบุว่า สินค้าทั้งหมดที่ถูกปรับขึ้นภาษี ล้วนแต่เป็นสินค้าที่มีดุลการค้ามากกว่า 3 พันล้านเหรียญในปี 2017 ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม แม้การพิจารณาขึ้นภาษีครั้งนี้จะถูกมองว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับตลาด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเกิดสงครามทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ แต่เมื่อพิจารณาดุลการค้าทั้งหมด การขึ้นภาษีครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรจากหยดน้ำในมหาสมุทร โดยในปี 2016 สหรัฐฯมีส่งออกไปสู่จีนถึง 1.156 แสนล้านเหรียญ

แม้การขึ้นภาษีของจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอบโต้การขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ แต่ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดในสหรัฐฯ ดูจะเป็นบรรดาชาวนา เนื่องจากสหรัฐฯได้มีการส่งออกสินค้าการเกษตรไปสู่จีนเป็นมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2017 ขณะที่ยอดส่งออกเนื้อหมูจากสหรัฐฯมีมูลค่าถึง 1.1 พันล้านเหรียญ จีนจึงเป็นตลาดเนื้อหมูที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ

สถาบัน Natixis ประเมินว่า จีนอาจมีมาตรการกดดันสหรัฐฯเพิ่มเติม โดยการเพิ่มรายการสินค้าให้มากขึ้นจากเดิมที่ 128 รายการ หากเศรษฐกิจจีนสามารถรับมือผลกระทบของการสูญเสียวัตถุดิบบางส่วนจากสหรัฐฯได้ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มการเกษตร รัฐบาลจีนอาจพิจารณาเพิ่มรายชื่อสินค้าในกลุ่มกระดาษ ฟิล์มภาพถ่าย และธัญพืชจากสหรัฐฯได้

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลจีนต้องการจะดำเนินการเช่นนั้น การที่จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายขยายฐานการผลิตในประเทศให้สำเร็จภายในปี 2025 ตามที่ได้วางแผนไว้ อาจจะเป็นไปได้ยากลำบาก

นายโรเบิร์ต ชิลเลอร์ นักเศรษฐศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ได้ออกมาเตือนว่า การตอบโต้ของรัฐบาลจีนต่อนโยบายขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นตัวกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกได้

ขณะที่รัฐบาลจีนก็ยังคงพยายามเรียกร้องให้สหรัฐฯแก้ไขปัญหาทางการค้ากับจีนผ่านการเจรจาอย่างต่อเนื่อง


ที่มา: CNBC

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com