• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้กว่า 1% จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับข่าวที่จีนจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ จึงทำให้ทั่วโลกตึงเครียดเรื่อง Trade War แม้ว่าตลาดการเงินส่วนใหญ่ในยุโรปจะปิดทำการเนื่องในวัน Easter Monday แต่ราคาทองคำตลาดโลกก็ปรับขึ้นได้ 1.4% ที่ระดับ 1,342.46 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมไตรมาสแรกที่ยังเป็นภาวะขาขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ติดต่อกัน 3 ไตรมาสต่อเนื่อง
• สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับขึ้น 19.6 เหรียญ คิดเป็น +1.5% ที่ระดับ 1,346.9 เหรียญ
• กองทุน SPDR ทำการซื้อทอง 6.19 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 852.31 ตัน
• จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 25% กับสินค้า 128 รายการ ที่รวมไปถึง เนื้อหมูแช่แข็ง และไวน์ เพื่อตอบโต้มาตรการการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ
• ขณะเดียวกัน ทีมบริหารของนายทรัมป์ จะทำการเปิดเผยแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในสัปดาห์นี้ ที่เป็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เพื่อเป็นบทลงโทษต่อจีนในการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา
• ผู้จัดการด้านพอร์ตจาก GraniteShares กล่าวว่า ความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นจากการที่จีนที่หามาตรการตอบโต้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เข้ามาช่วยหนุนทองคำในวันนี้ ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วการเพิ่มขึ้นของจีดีพีสหรัฐฯเมื่อเทียบกับประมาณการณ์ครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 2.9% ยังคงบ่งชี้ถึงการขยายตัวได้ดีของสหรัฐฯ แต่การมาของ Trade War และความกังวลด้านเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหลักที่เข้าหนุนราคาทองคำ
• นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า การถือสถานะ Long Position ที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยดันให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นด้วย อันจะเห็นได้จากข้อมูลของ CFTC ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ที่ระบุว่า นักลงทุนมีการเพิ่มการถือครองสถานะ Long Position ในตลาด COMEX 50,996 คู่สัญญา ที่ระดับ 172,834 คู่สัญญา
• สัปดาห์ที่แล้วราคาองคำอ่อนตัวลงไป 1.7% ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. แต่ภาพรวมไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค. – มี.ค.) ถือเป็นไตรมาสที่ 3 ที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
• นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การที่ทองคำ Break เหนือ 1,337 เหรียญได้ ส่งผลให้แนวรับของทองคำขยับขึ้นมาที่ 1,325 เหรียญ และไม่ยากที่จะบอกว่าทองคำเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะสั้นอีกครั้ง
• ราคาซิลเวอร์ปิด +2.1% ที่ระดับ 16.6 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.6% ที่ระดับ 933.6 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำต่ำสุดนับตั้งแต่ 29 ธ.ค. และราคาพลาเดียมปิด -1.8% ที่ระดับ 934.1 เหรียญ หลังจากลงไปทำต่ำสุดบริเวณ 928 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 10 ต.ค.