ขณะที่นักลงทุนในทองคำตอบรับกับทิศทางเชิงบวกของราคาในไตรมาสแรกที่ผ่านมา แต่จากผลการสำรวจนักวิเคราะห์ก็มีมุมมองให้ต้องระวังสัญญาณความเสี่ยงขาลงจากภาวะการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง
ทีมนักวิเคราะห์จากสถาบันชั้นนำในนิวซีแลนด์ ชี้โอกาสขาลงมีสูงจากภาวะ Divergence ที่กำลังเพิ่มขึ้นระหว่างราคาทองคำและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น ที่กำลังมีความชันมากขึ้น
และโดยปกติการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมักจะส่งผลกดดันต่อราคาทองคำ และมักทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่น่าสนใจ
หัวหน้านักวิเคราะห์ Topdown Charts ระบุว่า นับตั้งแต่ที่วิเคราะห์ทิศทางทองคำมาตั้งแต่เดือนพ.ย. จะเห็นได้ว่า อัตราดอกเบี้ยแท้จริงมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ทองคำก็ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก แต่ก็มีโอกาสที่จะกดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงมา และทุกความเป็นไปได้จาก gap ที่เกิดขึ้นในกราฟราคาปิดของดอกเบี้ยที่แท้จริงจะมีการกลับตัวลงต่ำกว่าศูนย์
อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการถอนนโยบายจาก QE สู่ QT น่าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริงมีแนวโน้มจะยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง และมีความเสี่ยงที่จะเห็นราคาทองคำร่วงหลุดต่ำกว่า 1,000 เหรียญได้ แต่ในระยะสั้นทองคำมีโอกาสจะสู้เพื่อเป็นขาขึ้นได้เนื่องจากได้รับอานิสงส์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลต่อในระยะยาวได้
และขณะนี้ไม่เพียงแต่ทองคำจะมีภาวะ Overvalued จากการถูกใช้ในฐานะ Safe-Haven แล้ว ก็ดูเหมือนภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับปัจจัยพื้นฐานในสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย และเมื่อพิจารณาภาพทางเทคนิคในขณะนี้ แนวต้านสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ 1,375 เหรียญ และ 1,400 เหรียญ ขณะที่เป้าหมายระดับล่างจะอยู่ที่ 1,250 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมของปี 2017 และ 1,130 เหรียญของปี 2016
ที่มา: Kitco