• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 5 เมษายน 2561

    5 เมษายน 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่บริเวณ 106.930 เยน/ดอลลาร์ หลังจากอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 105.990 เยน/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้

ด้านค่าเงินยูโร ปรับแข็งค่าขึ้นอีก 0.05% ที่ 1.2284 ดอลลาร์/ยูโร แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 1.2254 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยูโรโซนชะลอตัวลงในเดือน มี.ค. จากมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่ลดลง และปริมาณอุปสงค์ที่อ่อนแอลง

สำหรับดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ที่ระดับ 90.123 จุด

· รัฐบาลสหรัฐฯส่งสัญญาณถึงความต้องการที่จะเจรจากับทางรัฐบาลจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้า หลังจากที่จีนตอบโต้ด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ

ขณะที่ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใช้เวลาทั้งคืน เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อพยายามโน้มน้าวให้ตลาดผ่อนคลายความตึงเครียดลง

• ยอดสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรมในเยอรมนีขยายตัวขึ้น 0.3% ในเดือน ก.พ. ท่ามกลางแรงกดดันจากปริมาณอุปสงค์ภาคครัวเรือนในประเทศที่ลดลง ขณะที่ยอดสั่งซื้อในเดือน ม.ค. ถูกแก้ไขใหม่เป็นขยายตัวได้ 3.5% อย่างไรก็ตาม กระทรวงเศรษฐกิจเยอรทนียังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ต่อเนื่องภายในปีนี้

• ดัชนีวัดความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนที่มีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่ระดับ -12.4 จุด จากเดิมในเดือน ธ.ค. ที่ระดับ -11.9 จุด ขณะที่คาดการณ์การขยายตัวของเงินเฟ้อในประเทศก็ปรับลดลงเช่นกัน จึงเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นญี่ปุ่นอาจขยายตัวมาถึงจุดอื่มตัวแล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องกันยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ภาวะฟองสบู่เมื่อช่วงปี 1980

• ประธานหอการค้าสหรัฐฯประจำประเทศจีน กล่าวว่า นโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวโน้มสูงที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการในสหรัฐฯจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบในทางลบเสียเอง

• ผลสำรวจโดย IHS Markit พบว่าบรรดาธุรกิจในยูโรโซนมีผลประกอบการอ่อนแอที่สุดในไตรมาสที่ 1/2018 นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 ท่ามกลางการแข็งค่าของเงินยูโรที่กดดันปริมาณคำสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงสภาพอากาศที่มีหิมะตกเยอะในหลายๆประเทศ

ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของยูโรโซน ปรับลดลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือน มี.ค. เทียบกับระดับ 57.1 ในเดือน ก.พ.

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯที่แสดงถึงการลดลงของสต๊อกน้ำมันดิบและการผ่อนคลายทางความตึงเครียดระหว่างการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 63.57 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% ที่ระดับ 68.29 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com