• ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯและการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ จากกการที่เจ้าหน้าที่เฟดกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ที่จะเกิด Trade War ระหว่างสหรัฐฯกับจีน นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับอานิสงส์จากข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาด
• ราคาองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้น 0.5% ที่ระดับ 1,332.11 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 1,321.16 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 21 มี.ค. ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด +0.6% ที่ระดับ 1,336.1 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วทองคำผันผวนจากภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
• กองทุน SPDR เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำการซื้อทอง 2.06 ตัน และวันศุกร์ที่ผ่านมา ซื้อเพิ่มอีก 5.9 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 859.99 ตัน โดยช่วง 2 วันทำการ 2 วันซื้อมีการเข้าซื้อสุทธิ 7.96 ตัน
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯอ่อนตัวลง โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงไปกว่า 450 จุด หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญ ขณะที่จีนประกาศจะทำการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวเช่นกัน
• การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และค่าเงินยูโร หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ 103,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จึงอาจหนุนให้เฟดชะลอแผนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป
• นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจาก U.S. Bank Wealth Management คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,300 – 1,360 เหรียญ โดยตลาดค่อนข้างระมัดระวังต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์และตลาดพันธบัตร ประกอบกับสิ่งที่เฟดจะทำ
• หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Saxo Bank กล่าวว่า รายงานจ้างงานสหรัฐฯเป็นส่วนที่ช่วยหนุนทองคำเล็กน้อย แต่ภาพรวมตลาดตอบรับกับการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ระดับ 16.33 เหรียญ แต่ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดปรับขึ้น 0.2% ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.3% ที่ระดับ 913 เหรียญ โดยที่ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดลดลง 1.6% ทางด้านราคาพลาเดียมปิดปรับตัวลดลงติดต่อกัน 11 สัปดาห์ โดยคืนวันศุกร์ปิดลดลง 0.4% ที่ระดับ 901.3 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 2017 บริเวณ 895.47 เหรียญ โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 5.3%