• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 เมษายน 2561

    9 เมษายน 2561 | Economic News

• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ต่อเนื่องหลังจากปรับแข็งค่าขึ้นมาได้ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ท่ามกลางนักลงทุนที่เริ่มกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง แม้จะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ-จีนอยู่ก็ตาม

• สัปดาห์นี้ ตลาดให้ความสำคัญกับข้อมูลเงินเฟ้อ อันได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประกอบกับเฝ้าระวังผลรายงานประชุมเฟดเดือนมีนาคมที่จะเปิดเผยในสัดาห์นี้

• รัฐบาลซีเรียรายงานว่า สหรัฐฯถูกต้องสงสัยเป็นผู้โจมตีฐานทัพอากาศของซีเรีย เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับ “การชดใช้ครั้งใหญ่” จากการที่หน่วยช่วยเหลือรายงานว่ามีชาวบ้านถูกสังหารโดยแก๊สพิษ ในหมู่บ้านที่เป็นแหล่งกบดานของกลุ่มกบฏ

ขณะที่ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ยังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว รวมถึงทางรัฐบาลฝรั่งก็ให้การปฏิเสธเช่นเดียวกัน แต่ระบุว่าจะยังจับตาสถาณการณ์ในซีเรียต่อไป พร้อมเตรียมใช้นโยบายทางการทูตหากตรวจสอบพบผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยแก๊สพิษ

อย่างไรก็ตาม อีกแหล่งข่าวหนึ่งรายงานว่า รัฐบาลซีเรียต้องสงสัยอิสราเอล ว่าเป็นผู้ทำการโจมตีฐานทัพอากาศของตน โดยใช้เครื่องบินรบรุ่น F-15 จำนวน 2 ลำ โจมตีด้วยขีปนาวุธ โดยเป็นการโจมตีในช่วงกลางคืน ขณะที่รายงานจากรัสเซียก็สอดคล้องกับเนื้อหาดังกล่าว

• สื่อทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในระหว่างพิธีเปิดการประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ประจำปีนี้ โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันภายใต้ธีม "An Open and Innovative Asia for a World of Greater Prosperity" ในมณฑลไห่หนานของจีน ระหว่างวันที่ 8-11 เม.ย.

หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรทส์ ไทม์ของสิงคโปร์ ระบุว่า "ทั่วโลกต่างจับตาถ้อยแถลงของนายสี จิ้นผิง หลังจากที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายสีจะเปิดเผยมาตรการใหม่ในการขยายขอบเขตการปฏิรูปและการเปิดเสรี ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจจีนให้เติบโตขึ้น

ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "นายสีเคยแถลงนโยบายเพื่อปกป้องโลกาภิวัฒน์ในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอสเมื่อปีที่แล้ว"ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้วิเคราะห์ว่า นายสีจะกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติหลายร้อยคนว่า จีนจะไม่ใช้นโยบายกีดกันการค้าเหมือนสหรัฐอย่างแน่นอน

• รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวตำหนิสหรํฐฯ พร้อมระบุว่า เป็นไปได้ยากที่จะเจรจาร่วมกันภายใต้เงื่อนไขปัจจุบัน เนื่องจากสหรัฐฯมีการยกระดับมาตรการทางการค้า จึงยิ่งเพิ่มความกังวลให้แก่เครือข่ายการค้านานาชาติ

• นักวิจัยจากจีนและสื่อมีการลดการกล่าวถือประเด็นผลกระทบทางการค้าจากมาตรการของสหรัฐฯ-จีน โดยให้เหตุลผลว่า ท่าทีทางการค้าของทีมบริหารนายทรัมป์ ต่อสินค้าต่างๆของจีนดูจะเป็น "ความกังวลเกินกว่าเหตุ" และเศรษฐกิจจีนดูจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากความขัดแย้งทางการค้าดังกล่าว ท่ามกลางตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่ที่จะช่วยชดเชยผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวได้

นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจของจีนก็มีเสถียรภาพและมีการฟื้นตัว ดังนั้น ข้อขัดแย้งสหรํฐฯ-จีนน่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของจีนได้อย่างจำกัด และจีดีพีจีนปีนี้น่าจะขยายตัวได้ถึงเป้า 6.5% ขณะที่ผลกระทบต่อการจ้างงานน่าจะเกิดขึ้นจำกัดเช่นกัน

• ส่งออกเยอรมนีร่วงลงเกินคาดในเดือนก.พ. โดยเป็นการร่วงลงระดับรายเดือนที่มากที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และยอดเกินดุลการค้าที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนียังขยายตัวได้ โดยยอดส่งออกของเยอรมนีร่วงลง 3.2% ซึ่งเป็นระดับการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ ส.ค. ปี 2015 ขณะที่ยอดส่งออกร่วงลง 1.3%

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ปรับร่วงลงประมาณ 2% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งการขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 0.4% ที่ระดับ 62.31 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.5% ที่ระดับ 67.42 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com