• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ประกอบกับค่าเงินยูโรมีการแข็งค่าขึ้นหลัง นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ที่กล่าวว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นปีนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อเงื่อนไขทางการเงินของยูโรโซน จึงได้ช่วยหนุนให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขณะที่ภาพรวมไม่ได้กล่าวอะไรที่เซอร์ไพร์สตลาดนัก ขณะเดียวกันตลาดรอคอยถ้อยแถลงของประธานาธิบดีจีน ณ ที่ประชุมโป๋อ่าวในวันนี้
ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.3% ที่ระดับ 89.842 จุด และเมื่อวานลงไปทำระดับต่ำสุด 89.818 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 28 มี.ค. ขณะที่ค่าเงินยูโรเมื่อวานแข็งค่าขึ้นทำ High 1.23308 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 1.23227 ดอลลาร์/ยูโร
• นายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ้ รองประธานอีซีบี กล่าวว่า อีซีบี ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงินฉบับพิเศษเร็วเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเงินเฟ้อยูโรโซนที่มีการฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้
• เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เผยว่า ทีมบริหารของนายทรัมป์มีการประกาศแผนฉบับใหม่เพื่อเร่งปรับทบทวนงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานหลักๆของสหรัฐฯ เพื่อมุ่งเน้นปฏิรูปแผนค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่
• หน่วยงานด้านงบประมาณประจำรัฐสภาสหรัฐ ประเมินว่า นโยบายปฏิรูปภาษีที่พรรครีพับลิกันอ้างว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ มีแนวโน้มจะส่งผลให้ปริมาณหนี้สินของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นภายในปีงบประมาณ 2018 สู่ระดับ 8.04 แสนล้านเหรียญ เทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมาที่ระดับ 6.65 แสนล้านเหรียญ
นอกจากนี้ ปริมาณหนี้สินของประเทศอาจจะขยายตัวได้ 100% เทียบกับดุลการค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ภายในปี 2028
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงแผนที่จะเข้าพบกับ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือในเดือนหน้า หรือต้นเดือนมิ.ย.นี้ พร้อมคาดหวังว่า การเจรจาดังกล่าวจะนำไปสู่การสิ้นสุดโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
• หน่วยงาน FBI สหรัฐฯ ทำการบุกเข้าตรวจสอบสำนักงานทนายความของนายไมเคิล โคเฮน ซึ่งเป็นทหนายความส่วนตัวของนายทรัมป์ พร้อมยึดเอกสารต่างๆ รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินให้กับนักแสดงสาวคนหนึ่งที่ถูกระบุว่ามีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์
โดยทนายความของนายโดเฮน ได้ออกมาเปิดเผยว่า การบุกรุกครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนของคณะกรรมสืบสวนพิเศษนำโดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ เกี่ยวกับกรณีความเกี่ยวข้องกันระหว่างรัสเซียและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2016 จึงเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่คนใกล้ชิดของนายทรัมป์ถูกดำเนินการสืบสวนอย่างหนัก
• ทางรัฐบาลสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเรียกร้องให้คณะกรรมการด้านความมั่นคงประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) เร่งพิจารณาและดำเนินการในกรณีต้องสงสัยว่ารัฐบาลซีเรียมีการใช้อาวุธทางเคมีโจมตีหมู่บ้านที่เป็นแหล่งกบดานของกลุ่มกบฏเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,000 ราย ขณะที่รายงานจากรัสเซียและซีเรียระบุว่า ยังไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มีการโพสข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมเตือนให้ผู้อยู่เบื้องหลัง “เตรียมตัวชดใช้ครั้งใหญ่”
• นายเอนริเก้ เปญา เนียโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศชะลอการพิจารณาการให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯในทุกๆกรณี รวมถึงความร่วมมือในการต่อต้านกับกลุ่มผู้ลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามชายแดน เนื่องจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับเม็กซิโกมาโดยตลอด
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เพราะได้รับอานิสงส์จากการรีบาวน์ของตลาดหุ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งของสหรัฐฯและจีนที่เริ่มผ่อนคลายจากตลาดต่างๆ โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.25 เหรียญ คิดเป็น +1.9% ที่ระดับ 68.36 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.21 เหรียญ คิดเป็น +2.0% ที่ระดับ 63.27 เหรียญ/บาร์เรล