· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จากความหวังที่ว่าการโจมตีซีเรียของสหรัฐฯอาจไม่นำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้ส่งผลให้มีปริมาณการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.39% ที่ระดับ 89.452 จุด หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 89.355 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมาที่ระดับ 106.99 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อคืนยืนเหนือ 107 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นเหนือ 1.43 ดอลลาร์/ปอนด์ และนับเป็นครั้งแรกที่ค่าเงินปอนด์ครั้งแรกก่อนเกิดการลงประชามติ Brexit โดยนักลงทุนให้ความสนใจไปยังกระแสคาดการณ์ว่าบีโออีจะทำการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า จึงลดความกังวลกรณีที่อังกฤษทำการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวตำหนิรัสเซียและจีน เกี่ยวกับการพยายามลดค่าเงินตัวเอง ขณะที่สหรัฐฯมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ทางสหรัฐฯ ยังมีการกล่าวหาว่ารัสเซียปิดกั้นการตรวจสอบของนานาประเทศจากกรณีที่ถูกต้องสงสัยในการใช้อาวุธเคมีหรือแก๊สพิษในซีเรีย พร้อมกันนี้ ทางรัสเซียหรือซีเรีย อาจมีการปลอมแปลงหลักฐานภาคพื้นดินด้วย แต่รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
· เจ้าหน้าที่ทีมบริหารระดับอาวุโสของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำการเลื่อนการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และไม่มีแนวโน้มจะดำเนินการใดๆ จนกว่ารัสเซียจะมีท่าทียั่วยุเพิ่มเติม หรือมีการโจมตีทางโลกไซเบอร์ครั้งใหม่
รายงานจาก Washington Post ระบุว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เปิดเผยถึงการเตรียมมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ฐานให้การสนับสนุน นายบาร์ชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย แต่ทรัมป์จะทำการยุติแผนการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซียออกไปก่อน
· วุฒิสภาสหรัฐฯประกาศร่างกฎหมายที่รอคอยมาเนิ่นนานเพื่อให้ทางสมาชิกสภานิติบัญญัติของสภาคองเกรสทำการอนุมัติถอนกำลังทหารออกจากอิรัก, ซีเรีย และพื้นที่อื่นๆ
· ทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับเสียงวิพากย์วิจารณ์จากสมาชิกฝ่ายค้าน เกี่ยวกับงบประมาณที่ถูกใช้ไปเมื่อปีที่ผ่านมา จึงเป็นการสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินของทีมบริหารต่อจากนี้
· ผลสำรวจโดย Reuters ประเมินพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มที่จะสามารถครองที่นั่งในรัฐสภาฯได้มากขึ้นอีก 25 ที่นั่งเป็นอย่างน้อยในการเลือกตั้งทั่วไปในวาระที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งจะช่วยให้พรรคเดโมแครตมีอำนาจในการต่อรองกับพรรครีพับลิกันมากขึ้นหลังการเลือกตั้งดังกล่าว
· ผลการประกาศข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯประจำเดือนมีนาคมปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ท่ามกลางกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อมอเตอร์ไซ และยานพาหนะอื่นๆ จึงบ่งชี้ถึงกำลังการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเข้าสู่ไตรมาสที่ 2/2018
· นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถูกเสียงต่อต้านจากฝ่ายค้านในรัฐสภาอย่างหนัก จากการที่เธออนุมัติการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธเคมีในซีเรียโดยไม่ได้หารือกับรัฐสภาเสียก่อน
· โดยนางเมย์อ้างว่า จำเป็นต้องเร่งตัดสินใจเพื่อให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯและฝรั่งเศส และเป็นการแสดงจุดยืนต่อต้านการใช้อาวุธเคมีโจมตีหมู่บ้านในซีเรียเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่เชื่อว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
· จีนมีการเพิ่มการถือครองตราสารหนี้ในเดือนก.พ. ประมาณ 8.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อที่เพิ่มมากที่สุดในรอบ 6 เดือน แต่การถือครองตราสารหนี้ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ภาพรวมการสำรองตราสารหนี้ของจีนเพิ่มขึ้นภายใต้มูลค่า 1.18 ล้านล้านเหรียญ ทำให้ภาพรวมการสำรองเงินตราต่างประเทศสุทธิอยู่ที่ 4.32 หมื่นล้านเหรียญในเดือนดังกล่าว
· น้ำมันดิบปรับตัวลงท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับภาวะตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เบาบางลงไป โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.16 เหรียญ ที่ระดับ 71.42 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 1.17 เหรียญ ที่ระดับ 66.22 เหรียญ
อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้เกือบ 10% จากภาวะตึงเครียดและการโจมตีที่เกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย รวมไปถึงทองคำหรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ไว้ป้องกันความเสี่ยงทางการเมือง