• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 เมษายน 2561

    17 เมษายน 2561 | Economic News

·         ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ระดับ 1.2412 ดอลลาร์/ยูโร ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวถึงเชิงจีนและรัสเซียว่าพวกเขาจงใจทำให้ค่าเงินของพวกเขาอ่อนค่าลง จึงส่งผลให้บรรดานักลงทุนมองว่ารัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทางด้านดัชนีดอลลารือ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่

·         ผู้เชี่ยวชาญด้านค่าเงินจาก BNP Mellon ประเมินว่า ค่าเงินรูเบิลรัสเซียมีโอกาสที่จะถูกเทขายลงมาอีก หากรัสเซียถูกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากชาติตะวันตก หลังจากที่ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงมาจากแรงเทขายในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา จากระดับ 63.0 รูเบิล/ดอลลาร์ ลงมาที่ 61.2 รูเบิล/ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-สหรัฐฯ ที่มีต่อกรณีซีเรีย

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลสหรัฐฯมีโอกาสที่จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนได้เพียงพอในรัฐสภา มาตรการดังกล่าวจึงถูกเลื่อนออกไปก่อน

·         รัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษ ได้มีการออกประกาศเตือนร่วมกัน เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เล็งเป้าหมายมายังเราเตอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆทั่วโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสียหายให้กับภาครัฐบาล ธุรกิจ และกลุ่มผู้ให้บริการพื้นฐานที่สำคัญเป็นวงกว้าง โดยต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแฮกเกอร์ที่รัฐบาลรัสเซียเป็นผู้ให้การสนับสนุน

ประกาศเตือนดังกล่าว เกิดขึ้นภายใน 2 เดือนหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษ ได้กล่าวโทษรัสเซียว่าเป็นผู้ทำการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยไวรัส “NotPetya” เมื่อปี 2017 ที่คอมพิวเตอร์ทั่วโลกได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในประเทศยูเครนที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดการจะพบกันวันนี้ โดยที่ผู้นำทั้งสองจะประชุมเพื่อหาจุดยืนร่วมกัน เกี่ยวกับการเจรจากับเกาหลีเหนือที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้ รวมถึงกรณีการค้ากับจีนและประเด็นอื่นๆ

·         สำนักข่าว Reuters อ้างถึงรายงานจากสำนักข่าวในซีเรีย ที่ระบุว่า ระบบป้องกันทางอากาศของกองทัพซีเรียสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้จำนวนหนึ่งได้ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาในน่านฟ้าของจังหวัดออมส์ (Homs) และอีกจำนวนหนึ่งในน่านฟ้าทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงดามัสกั

โดยทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่าทางกองทัพสหรัฐฯไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในช่วงเวลาที่กล่าวมา ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะให้การเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว 

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อนายริชาร์ด คลาริด้า ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาเฟด โดยนายริชาร์ด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย Columbia และที่ปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ประจำ Pimco  ซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนการที่นายทรัมป์แต่งตั้งให้นายเจอโรม โพเบล รับตำแหน่งประธานเฟด และยังมีมุมมองสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบัน

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังได้เสนอชื่อนายไมเคิล บาวแมน คณะกรรมการประจำธนาคาร Kansas ให้ดำรงตำแหน่งหนึ่งในคณะกรรมการเฟดที่ยังเปิดว่างอยู่

ทั้งนี้ นายแคลริด้า ดูเหมือนจะเป็นผู้ได้รับตำแหน่งรองประธานเฟดแทนที่ นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟดคนปัจจุบันที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนต.ค. นี้

·         นักวิเคราะห์จาก DailyFX ประเมินจากเคลื่อนไหวของ Fibonacci ว่า ราคาน้ำมัน WTI ไม่สามารถทดสอบผ่านแนวต้านที่บริเวณ 66.63 -67.49 เหรียญ/บาร์เรลไปได้ จึงมีโอกาสที่จะย่อลงไปบริเวณ 63.90 และ 62.50 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านที่ 67.49 เหรียญ/บาร์เรลได้ ราคาจะมีโอกาสปรับสูงขึ้นไปถึงระดับ 70.38 เหรียญ



·         ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากที่ปรับขึ้นไปในช่วง 5 วันทำการ โดยได้รับผลสะท้อนจากภาวะความตึงเครียดในซีเรียที่ผ่อนคลายลงไป หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการลงโทษรัฐบาลซีเรียในการใช้อาวุธเคมีเท่านั้น ประกอบกับนายทรัมป์ ชะลอการคว่ำบาตรรัสเซียฐานให้การสนับสนุนนายบาร์ชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย

ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันจับตาไปยังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย API ภาคเอกชน และ EIA จากทางรัฐบาล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com