ถึงแม้การประชุมร่วมกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า จะก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าทั้ง 2 ประเทศอาจประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ทางอดีตเจ้าหน้าทีอาวุโสประจำหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หรือ CIA ได้ออกมาเตือนว่าทางเกาหลีเหนือไม่ได้มองว่าเกาหลีใต้มีอำนาจในการตัดสินยุติสงคราม
สงครามเกาหลีได้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ปี 1950 และได้สู้รบติดต่อกันถึง 3 ปี ถึงจะมีการเจรจาสงบศึก แต่ความขัดแย้งยังคงยืดเยื้อมานานกว่า 7 ทศวรรษ จึงเปรียบได้ว่าทั้ง 2 ชาติได้อยู่ในภาวะสงครามมาตลอด 68 ปี
นายบรูซ คลินก์เนอร์ อดีตเจ้าหน้าทีอาวุแห่ง CIA ได้กล่าวว่า “เมื่อปีที่ผ่านมา ผมได้พบกับตัวแทนจากเกาหลีเหนือ พวกเขาได้เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือไม่ได้มองว่าทางเกาหลีใต้มีอำนาจในการตัดสินยุติสงคราม เนื่องจากทางเกาหลีใต้ไม่ได้ลงนามในสัญญาสงบศึก และไม่มีกำลังพลทางทหารที่พร้อมรบประจำการ”
“ดังนั้น หากทั้ง 2 ชาติจะเจรจาเพื่อประกาศยุติสงคราม จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งอาจต้องอาศัยการลงนามเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ จีน และเกาหลีเหนือเอง จึงจะสามารถยุติสงครามได้อย่างเป็นทางการ”
การประชุมระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งจะเป็นการประชุมระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 โดยจะจัดขึ้นในพื้นที่พันมุนจอม (Panmunjom) ของเกาหลีใต้ที่เป็นเขตปลอดทหารระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ในขณะที่นายคิม จอง อึน จะถือเป็นผู้นำสูงสุดคนแรกที่ได้เดินทางข้ามพรหมแดนเกาหลีเหนือนับตั้งแต่เกิดสงคราม
สำหรับการประชุมระหว่างนายคิม จอง อึน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน พ.ค. ซึ่งอาจกลายเป็นการประชุมร่วมกันครั้งแรกระหว่างผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ก็กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแต่ยังคงไม่มีรายละเอียดใดๆมากนัก
ขณะที่ทางด้านผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้แสดงความประสงค์ที่ต้องการยุติความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้มีการตกลงกัน ที่จะติดตั้งสายโทรศัพท์เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อระหว่างทั้ง 2 ประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม การประชุมกับเกาหลีเหนือเพื่อยุติสงคราม มีแนวโน้มที่จะดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากทางเกาหลีเหนือได้มีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 2011 นายคิม จอง อึน ได้มีการยิงทดสอบขีปนาวุธไปแล้วทั้งสิ้น 85 ลูก และดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ถึง 4 ครั้ง