· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดในแดนลบ หลังจากที่เคลื่อนไหวในแดนบวกมาตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภันฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่หุ้น Ericsson และ Telia ปรับตัวสูงขึ้นหลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิด -0.2% แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีปรับสูงขึ้น 0.5% ติดต่อกับเป็นสัปดาห์ที่ 4
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับร่วงลง ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ในสมาร์ทโฟนที่ลดน้อยลงเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อและกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.8% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลงไป 0.7%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทรงตัว ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณอุปสงค์ในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนที่ลดน้อยลงและกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวสูงขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ทรงตัวที่บริเวณ 22,191.83 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีสามารถปรับสู.ขึ้นมาได้ 1.7% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มคมนาคม เนื่องความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิด Trade war ระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังเป็นตัวกดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนอยู่ โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับลดลง 1.2% บริเวณ 3,080.01จุด