• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลดลงไป 3 วันทำการ โดยราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.5% แถวระดับ 1,330 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับขึ้น 9 เหรียญ คิดเป็น +0.7% ที่ระดับ 1,333 เหรียญ หลังดอลลาร์เผชิญแรงเทขายแล้วอ่อนตัวลงมาจากทีขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน และการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเหนือ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับขึ้นเหนือระดับ 3% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯจากเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวขึ้น ขณะที่อุปทานหนี้สินรัฐบาลก็กำลังขยายตัว ซึ่งการเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 3% ของอัตราผลตอบแทนดังกล่าวได้เข้ากดดันตลาดหุ้น ขณะที่การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ได้ช่วยทำให้นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าซื้อทองคำ
• นักวิเคราะห์บางส่วน มองว่า ภาวะความกังวลทางการค้า กรณีคว่ำบาตรรัสเซีย หรือแม้แต่ปัญหาการเมืองในตะวันออกกลางที่เคยเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำดูจะถูกกลบไปจากโอกาสที่เฟดจะยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
• นักวิเคราะห์จาก Capital Economics กล่าวว่า กระแสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดกำลังเข้ากดดันทองคำให้อ่อนตัวลง แต่ปัจจัยตึงเครียดต่างๆ ก็ยังคงต้องจับตาเพราะจะเป็นตัวหนุนต่อราคาทองคำได้ และคาดว่าทองคำจะยังเคลื่อนไหวในกรอบกว้างระหว่าง 1,300 – 1,350 เหรียญ ขึ้นอยู่กับว่าความเสี่ยงในขณะนั้นมีมากน้อยเพียงใด รวมทั้งประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ต้องติดตามด้วย
• กองทุน SDPR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมติดต่อกัน 7 วันทำการ โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 865.89 ตัน
• ราคาพลาเดียมปิด -0.5% ที่ระดับ 973.65 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 960.47 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปิดปรับขึ้น +1.6% ที่ระดับ 932.10 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งบริเวณ 910.5 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปิด +1.2% ที่ระดับ 16.72 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 3% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา