• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2561

    30 เมษายน 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวแม้จะมีรายงานว่าประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐฯในปีนี้มีทิศทางชะลอตัวลง แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ก็ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2016 โดยปรับตัวขึ้นได้ 1.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนีดอลลาร์คืนวันศุกร์ขยับขึ้นเพียง 0.1% ที่ระดับ 91.671 จุด โดยภาพรวมยังคงเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 12 ม.ค.

ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นแตะระดับ 109.53 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 8 ก.พ. ทางด้านค่าเงินยูโรปซึ่งมีนักลงทุนเข้าถือสถานะ Long มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ปรับอ่อนค่าลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 12 ม.ค. บริเวณ 1.205 ดอลลาร์/ยูโร

• สัปดาห์ที่แล้วอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยยืนได้เหนือ 3% หลังจากที่กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้น โดยอัตราล่าสุดอ่อนค่ากลับลงมาแถว 2.74%

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ แสดงให้เห็นถึงภาวะแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 4 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นครั้งแรกของปีไปในการประชุมเดือนมี.ค. ขณะที่ข้อมูลจีดีพีไตรมาสแรกแม้จะชะลอตัวลงแต่ข้อมูล Core personal consumption expenditure price index ไตรมาสแรกยังขยายตัวได้ 2.5% จึงยังบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯมีโอกาสขยายตัวได้ตามเป้า 2% ที่เฟดกำหนด

• สองผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ได้ให้คำมั่นสัญญาในการเจอกันครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ว่าจะร่วมมือกัน ยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์บริเวณคาบสมุทรเกาหลีโดยสมบูรณ์ แต่นายทรัมป์ กล่าวว่าอาจจะยังกดดันเกาหลีเหนือต่อไปผ่านมาตรการคว่ำบาตรก่อนที่จะเข้าประชุมกับ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนืออาจเกิดขึ้นได้ในอีก 3-4 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยนายทรัมป์ ยังย้ำจุดยืนว่าการประชุมครั้งนื้เป็นการะประชุมนัดสำคัญมากเพื่อยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์บริเวณคาบสมุทรเกาหลี

• นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ มีแผนจะเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้สื่อข่าวจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้เยือนประเทศ ในช่วงที่ยุติการทดสอบขีปนาวุธในเดือนพ.ค.นี้ ท่ามกลางการเรียกร้องของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ต้องการให้เกาหลีเหนือทำการยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดก่อนที่จะเดินหน้าเจราจาร่วมกัน

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความยินดีต่อการประชุมเชิงบวกของเกาหลีในการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ประกอบกับการเป็นก้าวที ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สำหรับสันติสุขและเสถียรภาพทางเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

• นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับ นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ว่าทางรัสเซียยินดีจะอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ ในลักษณะไตรภาคี รวมทั้งโครงการพลังงานในคาบสมุทรเกาหลี

• นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวกับ ผู้นำเกาหลีเหนือว่าข้อตกลงใดๆที่เกิดขึ้นกับทางนายทรัมป์ อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เกี่ยวกับเรื่องการยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลอาจประสบกับภาวะ Shutdown ภายใน 28 ก.ย. หากสภาคองเกรสยังไม่ยอมผ่านร่างในการเตรียมงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงพรมแดนเม็กซิโก ซึ่งคาดว่างบประมาณจะเริ่มต้นที่ 1.6 พันล้านเหรียญ

• นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ถือเป็นหนึ่งในความกังวลอย่างมากของกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

• คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศรายชื่อ 36 ประเทศที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยคงชื่อประเทศจีนเอาไว้ในฐานะประเทศที่มีการละเมิดลิขสิทธ์ทรัพย์สินทางปัญญา และเพิ่มชื่อประเทศแคนาดาเกี่ยวกับความกังวลในการควบคุมชายแดนและด้านเภสัชกรรม

• รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า จีนกำลังจับตามองไปยังกลุ่มผู้แทนทางการค้าของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ขณะที่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเตรียมจัดการประชุม พร้อมทั้งแผนการปรับลดภาษีนำเข้า และการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งมีแนวโน้มว่าการพบกันในครั้งนี้จะสามารถช่วยลดภาวะ Trade War ลงไปได้ โดยการพบกันจะเกิดขึ้นในช่วงวันพฤหัสบดีนี้

• อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี เห็นพ้องกันในเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หลังจากที่สหรัฐฯมีท่าทีไม่เห็นด้วยแต่ก็ยังยอมอยู่ในข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน

• สำนักข่าว Reuters รายงาน ข้อเสนอใหม่ที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เสนอให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยอ้างว่าเป็นข้อตกลงใหม่นั้น ความจริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นข้อตกลงใหม่แต่อย่างใด

โดยนายมาครงได้เดินทางมายังสหรัฐฯเพื่อพบกับนายทรัมป์ และพยายามที่จะโน้มน้าวไม่ให้นายทรัมป์ถอนสหรัฐฯออกจากข้อดเสนอฉบับดังกล่าวกับอิหร่าน ซึ่งในก่อนหน้านี้ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็ได้เดินทางมาพบกับนายทรัมป์ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ข้อตกลงดังกล่าว หรือที่เรียกว่า the Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) ทางอิหร่านได้ลงนามยินยอมที่จะจำกัดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือและการบรรเทาทุกข์จากประเทศอื่นๆในข้อตกลง ซึ่งได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ในข้อเสนอที่นายมาครองยื่นให้ ในเบื้องต้นแล้วดูจะเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่สหรัฐฯและ 3 ประเทศพันธมิตรจากยุโรป ซึ่งได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี กำลังดำเนินการเจรจาอยู่ เพื่อพยายามที่จะรักษาข้อตกลงดังกล่าวเอาไว้

• ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์ส ชี้ว่า การคว่ำบาตรรัสเซียของทางสหรัฐฯส่งผลต่อภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของรัสเซียให้เป็นไปอย่างจำกัด

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง แม้ว่าน้ำมันดิบ Brent ยังคงปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ หลังจากมีสัญญาณว่าสหรัฐฯอาจจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่าน

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 74.64 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.1% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 68.10 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com