รัฐบาลจีนกำลังเตรียมการต้อนรับตัวแทนจากสหรัฐฯ เพื่อร่วมเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศภายในวันพฤหัสบดีนี้
โดยในเบื้องต้น รัฐบาลจีนมีกำหนดการให้นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน พบกับบรรดาตัวแทนจากสหรัฐฯ และเสนอการปรับลดภาษีรวมถึงการลดกฏระเบียบในการเข้าถึงตลาดให้กับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ข้อเสนอเพียงแค่นี้น่าจะยังไม่สามารถซื้อใจตัวแทนจากสหรัฐฯได้
การเจรจาดังกล่าวน่าจะดำเนินไปด้วยความตึงเครียด หลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศตกอยู่ในภาวะย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ จากกรณีที่สหรัฐฯกล่าวหาว่าจีนมีการละเมิดลิขสิทธ์ทรัพย์สินทางปัญญา และข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ากว่า 1.50 แสนล้านเหรียญ พร้อมสั่งห้ามจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีของสหรัฐฯให้กับจีน
นักวิเคราะห์ชี้ ยังมีโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถลดความตึงเครียดเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดสงครามทางการค้าขึ้นได้ แต่การแก้ไขปัญหาได้โดยเร็วนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก
เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวแทนจากสหรัฐฯมีแผนที่จะยึดจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนในการเจรจาครั้งนี้ โดยจะย้ำเตือนถึงคำข่มขู่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯเกี่ยวกับการขึ้นภาษี และรอดูว่าทางรัฐบาลจีนจะมีข้อเสนอตอบกลับมาเช่นไร ซึ่งในเบื้องต้น ได้คาดการณ์ว่า จีนน่าจะเสนอการปฏิรูปโครงสร้างทางตลาดที่ลงลึกมากกว่าเดิมและการดำเนินการที่รวดเร็ว
นายไมเคิล แฮร์สัน อดีตตัวแทนการค้าของสหรัฐฯประจำประเทศจีน กล่าวว่า กลยุทธ์ดังกล่าวของสหรัฐฯ อาจช่วยจีนมีการเปลี่ยนแปลงทางตลาดที่ดีขึ้นหากเจรจาสำเร็จ แต่อาจจะทำให้ความขัดแย้งย่ำแย่ยิ่งไปกว่าเดิมหากเจรจาล้มเหลว ขณะที่คาดการณ์ว่า สหรัฐฯจะบังคับใช้นโยบายเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ากว่าแสนล้านเหรียญ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์ยังได้ออกมาคาดการณ์ว่า ทางจีนน่าจะมีข้อเสนอให้กับทางตัวแทนจากสหรัฐฯเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ : ปรับลดภาษี 25% สำหรับรถยนตร์ต่างประเทศ, ลดกฏระเบียบสำหรับบริษัทนำเข้าในจีน, ซื้อสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้น เพื่อลดยอดขาดดุลให้กับทางสหรัฐฯ, เสนอการเจรจาเพื่อก่อตั้งการค้าเสรีกับสหรัฐฯ เป็นต้น