• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2561

    30 เมษายน 2561 | Economic News

·       ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ บริเวณ 91.45 จุด ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ระดับ 91.79 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ย่อตัวลงมาบริเวณ 2.961%

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์สามารถปรับแข็งค่าขึ้นได้ 1.37% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนปรับแข็งค่าขึ้น 0.18% บริเวณ 109.25 เยน/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ 109.52 เยน/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.15% บริเวณ 1.2113 ดอลลาร์/ยูโร เคลื่อนไหวเหนือระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ 1.2054 ดอลลาร์/ยูโร

·       ในการประชุมเฟดคืนวันพุธนี้ เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ประเมินโอกาส 93.3% ที่เฟดจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย สำหรับประเด็นที่ตลาดจะจับตาคือ Dot-plot และถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวล ประธานเฟด และคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะทรงตัวในคืนดังกล่าว

·       ยอดค้าปลีกในเยอรมนีปรับลดลง -0.6% ในเดือน มี.ค. โดยเป็นการชะลอตัวติดต่อกัน 4 เดือน ผิดคาดจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.8% ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือน ก.พ. ถูกปรับแก้ใหม่เป็นชะลอตัว -0.2%

ทั้งนี้ สาเหตุที่ยอดค้าปลีกในเยอรมนีชะลอตัวลงในเดือน มี.ค. ทีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวลดลงจากความขัดแย้งระหว่างบรรดาประเทศฝั่งตะวันตกและรัสเซียที่มีต่อกรณีซีเรีย รวมถึงนโยบายเชียงกีดกันการค้าจากสหรัฐฯ

·       รัฐบาลจีนกำลังเตรียมการต้อนรับตัวแทนจากสหรัฐฯ เพื่อร่วมเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศภายในวันพฤหัสบดีนี้

โดยในเบื้องต้น รัฐบาลจีนมีกำหนดการให้นายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน พบกับบรรดาตัวแทนจากสหรัฐฯ และเสนอการปรับลดภาษีรวมถึงการลดกฏระเบียบในการเข้าถึงตลาดให้กับสหรัฐฯ

·       ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนเม.ย. ปรับลดลงที่ระดับ 51.4 จากระดับ 51.5 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากคำสั่งซื้อของการส่งออกชะลอตัวลงบ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลง ขณะที่การค้าขายระหว่างจีน - กัมพูชามีความเสี่ยงต่อภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัว หากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิ

·       รัฐบาลอิหร่านกล่าวเตือนว่าการร่วมมือกันระหว่างซาอุดิอาระเบียและสหรัฐฯ จะส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งย่ำแย่ลง พร้อมยืนยันว่าอิหร่านจะคงจุดยืนในการรักษาความมั่นคงในตะวันออกกลางต่อไป แม้จะถูกสหรัฐฯกดดันมาก็ตาม

ทางด้านนายไมค์ ปอมเปโอ เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับจุดยืนดังกล่าวของอิหร่านที่สร้างผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงในตะวันออกกลาง

·       รายงานจาก Reuters เผย นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ มีกำหนดการจะเชิญผู้เชี่ยวชาญและนักข่าวจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้ เพื่อเยี่ยมชมการปิดพื้นที่ทดสอบนิวเคลียร์ โดยจะเกิดขึ้นภายในเดือนพ.ค. ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนที่นายคิมจะพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือน พ.ค.

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่การเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯชี้ให้เห็นถึงการผลิตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และยังคงปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันต่อเนื่อง 2 เดือน

โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดสถานการณ์ที่ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ขณะที่กลุ่มโอเปกยังคงปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.7% ที่ระดับ 74.14 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับร่วงลง 0.4% ที่ระดับ 67.82 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com