• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น โดยพันธบัตรอายุ 2 ปี ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. ปี 2008 บริเวณ 2.542% ก่อนจะทรงตัวแถว 2.504% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปียังอยู่ระดับสูงที่ 2.966% และพันธบัตรอายุ 30 ปีปรับขึ้นมาที่ 3.129%
• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ชี้ว่า เฟดมีโอกาสเพียง 5.7% ที่จะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้ แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนรอคอยคือมุมมองต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
• นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความแข็งแกร่ง แม้ว่าภาพรวมการค้าโลกจะยังมีความไม่แน่นอน
• บรรดาข้าราชการในสหรัฐฯเริ่มดำเนินการผลักดันนโยบายควบคุมการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่คุมเข้มมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึง “ข้อจำกัดอื่นๆ” ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศขยายระยะเวลาสำหรับการละเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมให้กับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ แม้บรรดาประเทศคู่ค้าจะยินดีกับการขยายเวลา แต่พวกเขาก็ยังพยายามผลักดันให้การละเว้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม สามารถมีผลได้แบบถาวร
• เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนการเจรจาทางการค้ากับจีน กล่าวว่า การเจรจาในสัปดาห์นี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของจีน เพียงแต่ต้องหาแนวทางเพื่อผลักดันการแข่งขันกับต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งการเจรจาในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ จะทำให้ทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยและศึกษากระบวนการจัดการความแตกต่างทางด้านการค้าร่วมกัน
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า กำหนดการประชุมกับผู้นำเกาหลีเหนือจะเปิดเผยในเร็วๆนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวชื่นชมนายทรัมป์ ว่าสมควรได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ จากความพยายามและท่าทีที่ต้องการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ดี ผู้นำเกาหลีใต้มีความเชื่อมั่นต่อเกาหลีเหนือมากขึ้นหลังจากที่ได้พบกันในการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการร่วมมือกันยุติโครงการอาวุธินิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี
• บรรดากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เผยยอดขายรถยนต์ที่ออกมาลดลงในเดือนเม.ย. เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของกลุ่มผู้บริโภคยังคงอ่อนตัว และการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น
• ตัวแทนเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ กล่าวว่า หากการปรับทบทวนข้อตกลง NAFTA ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางแคนานาและเม็กซิโกได้ภายใน 3 สัปดาห์ การอนุมัติจากสภาคองเกรสอาจตกไป
• รายงาน Think-Tank SIPRI แสดงให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายทางการทหารของรัสเซียปรับตัวลดลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษ จึงอาจส่งผลต่อการเดินหน้าจัดการทางการทหารได้ โดยปีที่แล้วค่าใช้จ่ายทางการทหารทั่วโลกปรับตัวขึ้น 1% แตะระดับ 1,739 ล้านล้านเหรียญ ขณะที่งบของทางรัสเซียปรับลง 20% แตะ 6.63 หมื่นล้านเหรียญ
• เกิดเหตุระเบิดพลีชีพในเมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นจำนวน 26 ราย ประกอบด้วยนักข่าว 9 ราย
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 1% ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 4 เดือน แต่ตลาดก็ยังมีแรงหนุนจากความกังวลที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.56 เหรียญ คิดเป็น -2.1% ที่ระดับ 73.13 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.32 เหรียญ คิดเป็นเกือบ -2% ที่ระดับ 67.25 เหรียญ/บาร์เรล
• ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ช่วยหนุนเศรษฐกิจของรัฐเท็กซัสฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ โดยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานและค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้น และยังช่วยเพิ่มรายรับให้กับธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ รวมถึงหนุนราคาที่อยู่อาศัยและของใช้จำเป็นอื่นๆ