เฟดจะประกาศผลการประชุมในช่วงเวลาประมาณตี 1 บ้านเรา ซึ่งในการประชุมวาระนี้ ไม่มีการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด และนักเศรษฐศาสตร์จาก JPMorganมองว่า ถ้อยแถลงเฟดดูจะหนุนกระแสคาดการณ์เพียงเล็กน้อย
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวประณาม หลังจากมีรายงานว่าคำถามที่ทางคณะสืบสวนพิเศษนำโดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ เตรียมไว้สำหรับการสัมภาษณ์นายทรัมป์ กว่า40 คำถาม หลุดออกไปสู่สาธารณชน
นายทรัมป์ทวีตได้ข้อความว่า “เป็นเรื่องที่น่าอัปยศ สำหรับการที่บทสัมภาษณ์ที่จงใจกล่าวหาว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัสเซียได้หลุดออกไปอยู่ในอุ้งมือของสื่อ! ผมไม่ได้ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เพราะว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
ทั้งนี้ คำถามในบทสัมภาษณ์ที่หลุดออกไป เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างนายทรัมป์และรัฐบาลรัสเซียที่อาจเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 รวมถึงคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่นายทรัมป์กำลังพยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
• นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ ได้มีการกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ทางคณะสืบสวนอาจออกหมายศาลให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากการประชุมระหว่างนายมูลเลอร์และทีมกฏหมายของนายทรัมป์ ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากทางทีมกฏหมายได้ส่งสัญญาณว่า นายทรัมป์ไม่มีความยินยอมที่จะให้สัมภาษณ์กับคณะสืบสวนแต่อย่างใด
• สัญญาณความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูโรโซน เริ่มที่จะถดถอยลงไป ส่งผลให้บรรดานักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจแบบในปี 2017 อาจกลับมาอีกครั้ง แม้นักลงทุนบางส่วนจะยังมีความเชื่อมั่นจากการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบรรดาบริษัทก็ตาม
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจยุโรปเริ่มที่จะถดถอยลง หลังจากตลาดหุ้นยุโรปไม่สามารถเติบโตตามความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นยุโรปสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้เพียง1.3% ในปีนี้ จากที่สามารถขยายตัวได้ถึง 10% ในปี 2017
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่เปิดเผยออกมา ยังเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในตลาดยุโรป ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบรรดาบริษัทจะไม่สามารถขยายตัวต่อได้ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับย่อตัวลงไปกว่า 4.2% จากระดับสูงสุดในเดือน ม.ค. ขณะที่เงินลงทุนกว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญ ได้ถูกถอนออกจากตลาดยุโรปในช่วงระยะเวลา 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในเดือน เม.ย. อัตราจัดสรรเงินทุนสู่ตลาดยุโรปปรับลดลงสู่ระดับ 34% ซึ่งเป็นนระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เทียบกับระดับ 58% ในเดือน ต.ค. ปีที่ผ่านมา
• รายงานจาก Reuters เผย นายหลิ่ว อี้ (Liu He) ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจคนสำคัญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะพบกับตัวแทนด้านการค้าจากสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ภายในสัปดาห์นี้
สำหรับทางด้านตัวแทนจากสหรัฐฯที่เดินทางไปยังจีน จะประกอบด้วย นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ, นายสตีเว่น มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลัง, นายวิลเบอร์ รอส เลขาธิการกระทรวงพาณิชย์, นายปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาด้านการค้าและอุตสาหกรรม, และนายแลรี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ
• ทางการเกาหลีใต้เผย การประจำการหรือถอนทัพของกองทัพสหรัฐฯภายในพื้นที่เกาหลีใต้ จะไม่เกี่ยวข้องกับการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้ก็ยังคงต้องการให้สหรัฐฯประจำการอยู่ในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากกองทัพสหรัฐฯเปรียบเสมือนกับตัวกลางระหว่างความขัดแย้งทางด้านทหารที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศมหาอำนาจใกล้เคียงอย่างจีน หรือญี่ปุ่น
• ข้อมูลภาคการผลิตของเยอรมนีประจำเดือนเม.ย. ชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ปรับลดลงติดต่อกัน 4 เดือน
Markits เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเยอรมนีออกมาลดลงสู่ระดับ 58.1 จุด จากระดับ 58.2 จุดในเดือนมี.ค. ซึ่งถึงแม้ข้อมูลล่าสุดจะออกมาแย่ลง แต่ภาพรวมยอดผลผลิตสินค้ายังคงปรับขึ้นได้อย่างรวดเร็วในเดือนมี.ค. จึงยังบ่งชี้ว่า ภาวะการขยายตัวของภาคการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ยังคงแข็งแกร่ง
• กิจกรรมภาคการผลิตในในเอเชียยังคงมีความแข็งแกร่งสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐิกจของจีนหรือญี่ปุ่น แต่ยอดส่งออกดูมีสัญญาณอ่อนตัวในทั่วภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
โดยเจ้าหน้าที่จากจีนและสหรัฐฯจะทำการเจรจาร่วมมกันในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางทั้ง 2 ฝ่ายที่มีท่าทีคุกคามในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของแต่ละฝ่ายเป็นจำนวนหลายพันล้านเหรียญ ซึ่งผลจากการประชุมเป็นเรื่องสำคัญมากต่อแนวโน้มของกลุ่มผู้ส่งออกในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นผลสำรวจ PMI ของกิจกรรมภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ดูเหมือนจะเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว
นักเศรษฐศาสตร์จาก Pictet Wealth Management กล่าวว่า ดูเหมือนยอดส่งออกจะชะลอตัวลง หลังจากที่แข็งแกร่งในช่วงปีที่แล้ว แต่หากปราศจากความเป็นไปได้ที่จะเกิด Trade War ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเป็นกังวล และสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ แต่ภาวะสงครามการค้าดังกล่าวก็ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก เพราะหากเกิดขึ้นจริงก็มีแต่จะสร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น
• รายงานจาก CNBC ระบุว่า ก่อนหน้าการประชุมระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ทางการจีนส่งข้อความล่วงหน้าว่า “จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับข้อเรียกร้องใดๆจากสหรัฐฯ”
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่สหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิหร่าน แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นก็ตาม