• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2561

    3 พฤษภาคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ แม้ว่าประชุมเฟดจะมีมุมมองว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นบรรลุเป้าหมาย 2% ได้ แต่ตลาดก็ยังกังวลต่อท่าทีผ่อนคลายทางการเงินแม้ว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้อ่อนตัวลง 0.1% ที่ระดับ 92.358 จุด หลังจากที่ปรับขึ้นทำ High นับตั้งแต่ 28 ธ.ค. ที่ระดับ 92.718 จุด ก่อนทราบผลประชุมเฟด

• นักลงทุนกำลังเกิดกระแสคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางอีซีบีที่จะถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

อย่างไรก็ดี นักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลการจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย. ในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อ ขณะที่ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนขยายตัวได้ 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมา

• ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่า การเจรจาระหว่างตัวแทนจากสหรัฐฯและจีน เกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศ มีโอกาสค่อนข้างน้อยที่จะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ ท่ามกลางแรงกดดันจากประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ต้องการผลักดันนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ทั้งนี้ หากหากการเจรจาจะได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจของทางสหรัฐฯ ทางจีนอาจต้องมีการปฏิรูประบบการค้าภายในประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า มีโอกาสต่ำที่ทางการจีนจะยินยอมให้ความร่วมมือ

สำหรับการเจรจาซึ่งกำลังเกิดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีผู้นำในการเจรจาจากแต่ละฝ่ายซึ่งก็คือนายสตีเวน มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ และ นายหลิ่ว อี้ รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำตัวประธานาธิบดีจีน

• รายงานจาก CNBC ชี้ว่า ก่อนการประชุมระหว่างประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจทั้ง 2 จะเกิดขึ้น สื่อจีนก็มีรายงานต่อตัวแทนการค้าของจีนว่า จีนจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องทั้งหมดของสหรัฐฯ

• ทางการสหรัฐฯเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจพิจารณายกเลิกการละเว้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมให้กับประเทศบราซิลหลังจากที่การเจรจาไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้

อย่างไรก็ตาม ทางการบราซิลกลับให้การขัดแย้งกับทางสหรัฐฯ โดยระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการละเว้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมแบบถาวรได้แล้ว แต่ทางคณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯกลับเป็นฝ่ายตัดบทการเจรจาเสียเอง

• เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวเผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไม่ถอนสหรัฐฯออกจากสนธิสัญญานิวเคลียร์กับอิหร่านในวันที่ 12 พ.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม วีธีดำเนินการของนายทรัมป์ในสนธิสัญญาดังกล่าว ยังคงไม่มีความชัดเจน

ทั้งนี้ การที่นายทรัมป์กำลังพิจารณาไม่ถอนตัวออกจากสนธิสัญญา ก็เพื่อเป็นการรักษาหน้าให้กับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และรักษาความเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศอื่นๆภายในสนธิสัญญา รวมถึงเพื่อป้องกันความไม่พอใจจากอิหร่าน ที่อาจตอบโต้ด้วยการ ”ลงโทษ” ทหารสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ของซีเรีย อิรัก เยเมน และเลบานอน หากสหรัฐฯถอนตัวออกจากสนธิสัญญา

• สำนักข่าวในจีนและเกาหลีเหนือรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและมนตรีแห่งรัฐจีน ได้เดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ เพื่อพบกับนายลี ยอง โฮ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งเกาหลีเหนือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการก่อตั้งสนธิสัญญาทางการค้าแบบทวิภาคีระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ รวมถึงปัญหาอื่นๆในคาบสมุทรเกาหลี

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นก่อนทราบรายงานผลประชุมเฟดที่ถึงแม้จะคงดอกเบี้ยแต่มีความมั่นใจต่อการปรับขึ้นของเงินเฟ้อที่จะขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 23 เซนต์ ที่ระดับ 73.36 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 68 เซนต์ ที่ระดับ 67.93 เหรียญ/บาร์เรล

EIA เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 6.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยกดดันราคาในช่วงต้นตลาด

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com