• ดอลลาร์อ่อนค่าลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายระดับปานกลาง เพราะได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนหลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นไปอย่างมากในรอบปีนี้ ประกอบกับตลาดรอคอยข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย.
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.13% ที่ระดับ 92.395 จุด โดยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดของปีนี้บริเวณ 92.834 จุดในคืนวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับขึ้น 0.29% ที่ระดับ 1.1985 ดอลลาร์/ยูโร
• บรรดาผู้ประกอบการในยุโรป เริ่มมีความเชื่อมั่นว่าการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ อาจช่วยให้ความผันผวนของค่าเงินยูโรลดน้อยลง หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2018 ของบรรดาผู้ประกอบการในยุโรป ถูกกดดันลงมาจากการแข็งค่าของเงินยูโร
• CNBC เผยรายงานล่าสุดจาก นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การเจรจาระหว่างตัวแทนจีนเป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ดี ในการประชุมวาระนี้ ระหว่างนายมนูชิน กับรองนายกรัฐมนตรีจีน ถูกคาดว่าจะสามารถคุยกันได้ครอบคลุมถึงข้อเรียกร้องของสหรัฐฯเกี่ยวกับแนวทางการค้าของจีน ซึ่งในวันนี้ยังคงมีการเดินหน้าเจรจาร่วมกันต่อเป็นวันที่ 2
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการส่งตัวแทนทางการค้า เพื่อร่วมเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศเมื่อวานนี้ และการเจรจาจะมีจัดขึ้นอีกภายในวันนี้อีกวันหนึ่ง โดยการเจรจาในวันนี้ จะเกิดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีผู้นำในการเจรจาจากแต่ละฝ่ายซึ่งก็คือนายสตีเวน มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ และ นายหลิ่ว อี้ รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำตัวประธานาธิบดีจีน
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า โอกาสที่การเจรจาจะสามารถประสบความสำเร็จได้มีค่อนข้างต่ำ แต่มีแนวโน้มที่ทางการจีนอาจเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น เพื่อชะลอการผลักดันนโยบายขึ้นภาษีจากสหรัฐฯออกไป
• ยอดดุลการค้าเคลื่อนไหวแคบๆในเดือนมี.ค. ท่ามกลางยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดขนส่งเครื่องบินและถั่วเหลือง จึงยังเป็นปัจจัยที่หนุนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสที่ 2 โดยยอดขาดดุลสหรัฐฯมาลดลง 15.2% สู่ 4.9 หมื่นล้านเหรียญ จากระดับ 5.77 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯยังคงอยู่แถวระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1973 จึงยังบ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน โดยข้อมูลล่าสุดออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดแต่แย่จากเดิมเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 211,000 ราย
• รายงานจากเฟดสาขาแอตแลนต้า ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ 4% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แม้ว่าข้อมูลล่าสุดจะบ่งชี้ถึงภาวะยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับข้อมูลยอดดุลการค้าและคำสั่งซื้อภาคโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง
• ตัวแทนจากทำเนียบขาว กล่าวเตือนทางการจีน ว่าอาจมี ”ผลกระทบ” จากการที่ จีนได้เคลื่อนพลทหารในพื้นที่ทะเลจีนใต้
• ทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่า จะเจรจากับเกาหลีเหนือเพื่อให้ปล่อยตัวประกันชาวสหรัฐฯจำนวน 3 คนออกมาก่อนหน้าการเจรจาระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยทางทำเนียบแสดงความเชื่อมั่นว่า การเจรจาเพื่อขอให้ปล่อยตัวประกันมีโอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
• หัวหน้าทีมทนายความประจำตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า หากนายทรัมป์ต้องเข้าให้สัมภาษณ์กับนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ การสัมภาษณ์ควรมีระยะเวลาจำกัดเพียงไม่กี่ชั่วโมง และคำถามควรเกี่ยวกับข้อต้องสงสัยว่ารัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016 เท่านั้น
• รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะไม่ยอมรับเงื่อนไขหรือความต้องการของสหรัฐฯในการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 ท่ามกลางนายทรัมป์ที่กำหนดเส้นตายสำหรับสหภาพยุโรปในการปรับปรุงข้อตกลงดังกล่าว
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต และความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะทำการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน จึงช่วยจำกัดการขยายตัวของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 26 เซนต์ หรือ +0.35% ที่ระดับ 73.62 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ที่ระดับ 68.43 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็น +0.74%
• ทางการสหรัฐฯอนุมัติให้ยกเลิกการจำกัดปริมาณขนส่งน้ำมันผ่านท่อส่งน้ำมันของบริษัท TransCanada Corp ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่าปริมาณขนส่งน้ำมันล่าสุดของท่อส่งน้ำมันอยู่ที่ระดับเท่าใด