MTS Help Center

• Daily FX ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัใกล้ระดับสูงสุดรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงอ่อนค่า จากข้อมูลภาคอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีที่ออกมาอ่อนแอ

โดยค่าเงินยูโรยังคงอ่อนค่าลงเป็นภาพขาลง และดูเหมือนจะลงมาแถวแนวรับแถวจุดต่ำสุดเดิมเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึงการที่ยูโรจะกลับมาเป็นขาขึ้นอาจต้องจับตาการร่วงลงของทองคำกลับลงมาระดับต่ำสุดเมื่อ ธ.ค. 2017

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดการจะประกาศว่าเขาตัดสินใจที่จะถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงทางนิวเคลียร์กิบอิหร่านหรือไม่ภายในค่ำคืนนี้ เวลาประมาณตี 1 ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ทางประเทศพันธบมิตรฝั่งยุโรปอ้างว่าพวกเขาสามารถโน้มน้าวให้อิหร่านระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว

รายงานล่าสุดจากทางการสหรัฐน เปิดเผยว่าฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯในประเด็นความขัดแย้งกับอิหร่าน ได้ระบุว่าพวกเขาสามารถเจรจากับอิหร่านให้ระงับการพัฒนาขีปนาวุธ ซึ่งเป็นประเด็นที่นายทรัมป์กังวลในการต่อสัญญานิวเคลียร์กับอิหร่าน ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของประเทศพันธมิตรจะสามารถช่วยโน้มน้าวความคิดของนายทรัมป์ได้หรือไม่

• นายเจอโรม โพเวล ประธานเฟด กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ไม่ได้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดการเงินและตลาดเกิดใหม่อย่างที่หลายๆฝ่ายกังวล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดกลับกลายเป็นการสร้างมุมมองให้กับบรรดานักลงทุนว่าอาจเป็นผลทางลบต่อตลาดโลก

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีขยายตัวได้เกินคาดในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 1.0% จากคาดการณ์ที่ระดับ 0.8% จึงยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกมีสัญญาณที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ร่วงลงไปอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนแรก

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี บ่งชี้ว่า ยอดส่งออกขยายตัวได้ 1.7% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง 0.9% และโดยภาพรวมมียอดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 2.2 หมื่นล้านยูโร จากยอดเดิมในเดือนก่อนหน้าที่ปรับทบทวนขึ้นมาบริเวณ 1.94 หมื่นล้านยูโร

• เจ้าหน้าที่อาวุโสของเยอรมนี แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญข้อจำกัดของคู่ค้าต่างชาติในจีน และเรียกร้องให้จีนทำการอนุมัติเงินทุนภาครัฐเยอรมนี

• ยอดส่งออกของจีนปรับตัวขึ้นได้เกินคาดในเดือนเม.ย. หลังจากที่ร่วงลงอย่างมากในเดือนก่อนหน้า จึงสะท้อนถึงอุปสงค์ทั่วโลกที่ยังคงแข็งแกร่งและหนุนเศรษฐกิจของจีน ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ

รายงานจาก CNBC ระบุว่า ยอดนำเข้าของจีนประจำเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 21.5% ขณะที่ยอดส่งออกขยายตัวได้ 12.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยภาพรวมจีนมียอดดุลการค้าในเดือนเม.ย. เป็นยอดเกินดุล 2.878 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจของ Reuters ที่ประเมินไว้ที่ระดับ 2.47 หมื่นล้านเหรียญ

นอกจากนี้ ในรายงาน ยังระบุว่า ยอดเกินดุลของจีนกับสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 2.219 หมื่นล้านเหรียญในเดือนเม.ย. จากระดับ 1.543 หมื่นล้านเหรียญในเดือนมี.ค. ขณะที่ช่วงเดือนม.ค. – เม.ย. มียอดเกินดุลอยู่ที่ 8.04 หมื่นล้านเหรียญ

• นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวกับสำนักข่าวของญี่ปุ่น โดยระบุว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือควรเริ่มต้นที่จะเจรจาเพื่อปรับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศฟื้นคืนมาเป็นปกติ และเพื่อเป็นการสนับสนุนเสถียรภาพและสันติภาพภายในภูมิภาค

• นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น เผยว่า ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม G20 ในระหว่างวันที่ 8-9 มิ.ย.ปีหน้า

• ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยัง

การตัดสินใจของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการจัดหาน้ำมันของโลก

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.9% ที่ระดับ 70.11 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวบริเวณ 75.64 เหรียญ/บาร์เรล