• ราคาทองคำปรับตัวลง โดยราคาทองคำตลาดโลกปิดแถว 1,312.89 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ บริเวณ 1,304.11 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดลดลง 70 เซนต์ คิดเป็น -0.05% ที่ระดับ 1,313 เหรียญ
แม้ว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงอิหร่านแต่ก็ไม่อาจทำให้กำลังซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้นได้ ขณะเดียวกันตลาดก็มีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นด้วย
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการขายทองคำออก 1.18 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 862.95 ตัน
• หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ตลาดมีการรับข่าวแนวความคิดของทรัมป์มาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว จึงลดกำลังเข้าซื้อในทองคำบางส่วนไป นอกจากนี้ ปัจจัยที่กดดันทองคำยังคงมีอยู่ จากสถานการณ์ความคืบหน้าในคาบสมุทรเกาหลีที่ดูจะลดแรงตึงเครียดลงไป หลังมีข่าวว่า เกาหลีเหนือตัดสินใจปล่อยชาวสหรัฐฯ 3 รายที่กุมตัวไว้ก่อนหน้า เพื่อเปิดทางก่อนที่ 2 ผู้นำของสหรัฐฯและเกาหลีเหนือจะเข้าพบกันในเร็วๆนี้
• นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์ที่ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบปี แม้ว่าจะอ่อนตัวลงบ้างจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด แต่ภาพรวมของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ก็ยังปรับตัวขึ้นได้เหนือ 3% จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ากดดันทองคำให้กลับลงมาแถวแนวรับ 1,300 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered มองว่า ปัจจัยที่กดดันทองคำในขณะนี้มีเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วย โดยคาดว่าทองคำมีโอกาสกลับเป็นขาลงอีกครั้ง จากการที่เฟดน่าจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิมบริเวณ 1,301 เหรียญ หลังไม่สามารถฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,317 เหรียญได้กว่า 3 ครั้ง
• นักวิเคราะห์จาก Everbank ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบในระดับสูงรอบกว่า 4 ปี อาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการขยายตัวของเงินเฟ้อได้ และหากเราเห็นสัญญาณใดๆของการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อมากขึ้น ก็อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามมาได้
• ราคาซิลเวอร์ปิด +0.6% ที่ระดับ 16.53 เหรียญ หลังจากที่ไปทำ High รอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 16.62 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.8% ที่ระดับ 912.74 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด +0.6% ที่ระดับ 975.5 เหรียญ และเมื่อวานขึ้นไปทำ High ในรอบเกือบ 2 สัปดาห์บริเวณ 982.6 เหรียญ