• ราคาทองคำระหว่างวันทรงตัวแถวบริเวณ 1,313.94 เหรียญ ขณะที่ในช่วงบ่ายปรับลดลงมาบริเวณ 1,311.00 เหรียญ ท่ามกลางแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่าที่สุดของปีนี้ จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่สูงขึ้น ขณะที่บรรดานักลงทุนกำลังจับตาดูว่าการถอนตัวออกจากข้อตกลงทางนิวเคลียร์กับอิหร่านของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบเพิ่มเติมเช่นไรบ้าง
ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,314.10 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก Argonaut Securities ประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงมีแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ตะวันออกกลางเข้าช่วยหนุนให้มีแรงเข้าซื้อบ้าง อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยที่กดดันทองคำหลายประการอย่างค่าเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ จึงเป็นสาเหตุที่ราคาทองคำในช่วงนี้เคลื่อนไหวอยู่แต่ในกรอบแคบๆ
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นหลังสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ขณะที่ทางการยุโรปยังคงมีความพยายามที่จะรักษาสัญญาดังกล่าวอยู่
• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบปี ท่ามกลางแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ปรับสูงขึ้นบริเวณระดับทางจิตวิทยาอีกครั้งที่ 3% ขณะที่บรรดานักลงทุนกำลังจับตาดูการประกาศตัวเลข CPI ของสหรัฐฯในค่ำคืนนี้
• ทางด้านตลาดยูโรโซน บรรดานักลงทุนดูจะเริ่มลดกระแสคาดการณ์ว่าทาง ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง
• นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบนระหว่าง 1,302 – 1,317 เหรียญ
ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 16.50 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 16.62 เหรียญในช่วงตลาดก่อนหน้า
ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 912.50 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 976.30 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก DailyFX ชี้ว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัวได้หลังจากที่ค่อยๆปรับตัวขึ้นเหนือระดับแนวรับช่วงธ.ค.ปี 2016 โดยขณะนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,284.3 - 1,301.92 เหรียญ ซึ่งหากทองคำผ่าน 1,315.44 เหรียญได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปแถว 1,323.6 เหรียญ