· ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 193 จุด คิดเป็น -0.78% ที่ระดับ 24,706.41 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.68% ที่ระดับ 2,711.45 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.81% ที่ระดับ 7,351.63 จุด
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ไปทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี ได้กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแดนลบ หลังจากที่ยอดค้าปลีกอยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง จึงจุดประกายความกังวลด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลต่อการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนด้วยเช่นกัน
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. ปี 2011 จึงสะท้อนถึงภาวะการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และได้ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปิดทำระดับสูงสุดของปีนี้ โดยเป็นผลมาจากโอกาสที่เฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง
· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวกรอบแคบๆในวันนี้ ตามการปิดแดนลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นแตะ 3.09% โดยดัชนีนิกเกอิเปิดอ่อนแรงลง -0.34% ขณะที่หุ้น Topix เปิด -0.23% จากแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมือง ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.35%
· นักบริหารเงิน คาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.80 - 32.20 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ด้วยว่าจะเสียงแตกเรื่องการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หากมีเสียงที่ต้องการให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เชื่อว่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปเร็วกว่านี้
· การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ คาดการณ์ว่า กนง.จะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 1.50% เพื่อช่วยเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไป แต่แนะนำให้จับตาว่ามติ กนง.รอบนี้จะเป็นเอกฉันท์หรือไม่