· ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.25% ที่ระดับ 24,768.93 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.41% ที่ระดับ 2,722.46 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.63% ที่ระดับ 7,398.3 จุด
· ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับอานิสงส์หลักจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและเทคโนโลยี ประกอบกับหุ้น small-cap Russell 2000 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นในรอบเกือบ 7 ปี
· ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดแดนบวกในวันนี้ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10ปีจะยืนเหนือ 3% ก็ตาม
ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.45% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.39% เพราะได้รับอานิสงส์จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและภาคการผลิต
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.05-32.20 บาท/ดอลลาร์ สำหรับผลประชุม กนง. เมื่อวานนี้ มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่ยังมีแรงซื้อดอลลาร์อย่างต่อเนื่องจากกรณีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังพุ่งสูงขึ้น
· คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวานนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
สำหรับทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2561 มีแนวโน้มดีกว่าที่คาดไว้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้จากที่คาดการณ์การเดิมที่ 4.1% แต่ต้องรอดูการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1/61 ที่ สศช. จะแถลงวันที่ 21 พ.ค.2561 นี้อีกครั้ง