• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2561

    17 พฤษภาคม 2561 | Economic News



·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 5 เดือน บริเวณ 93.632 จุด ก่อนจะปิด +0.16ที่ระดับ 93.365 จุด ซึ่งตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.26ที่ระดับ 1.1806 ดอลลาร์/ยูโร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูดสุดรอบ 7 ปีบริเวณ 3.10% โดยทรงตัวแถวระดับ 3.08%

·         ข้อมูลภาคอุตสาหกรรมการผลิตสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย. โดยออกมาแข็งแกร่งเกินคาดแตะระดับ 0.7% ท่ามกลางการขยายตัวในภาคการผลิตและผลผลิตเหมืองแร่อย่างรวดเร็ว จึงเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงต้นไตรมาส 2

·         นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เชื่อมั่นว่า นโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดใกล้สู่ระดับปกติ ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวและแรงกดดันเงินเฟ้อได้ ดังนั้น เราจึงต้องแน่ใจก่อนว่าเงิเนฟ้อที่ทรงตัวอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเราจะฟื้นตัวได้จริงๆในระยะเวลา 5 ปีได้หรือไม่ และเขาเชื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกไม่น้อยกว่า 2 ครั้งในปีนี้ เป็นเรื่องที่เหมาะสม ท่ามกลางระดับคนว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำแตะ 3.9และเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวขึ้น

·         นายบอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า แสดงความคิดเห็นเชิงบวกต่อทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ โดยปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีมาที่ระดับ 2.4-2.5โดยน่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากนโยบายทางการเงิน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าภาคบริษัทและประชาชนจะตอบรับกับการปรับลดภาษีอย่างไร ขณะเดียวกันมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 2-4 ครั้งในปีนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ก็ดูเหมือนเขาจะสนับสนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยตามคาดการณ์จำนวน 3 ครั้งเป็นหลัก

อย่างไรก็ดี เฟดอาจเผชิญความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2016 ซึ่งเฟดควรจะต้องเตรียมรับมือกับสัญญาณเชิงลบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ


ขณะที่เครื่องมือ CME FedWatch แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 4 ครั้งปีนี้ ดูจะมีมากขึ้นจากระดับ 34.1ในเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 51.4% ในปัจจุบัน

·         ตัวแทนเจรจาอาวุโสของทีมบริหารของนายทรัมป์ เผยว่า สหรัฐฯและจีนจะเปิดฉากการประชุมในวันนี้เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงสงครามการค้าจากการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า โดยตัวแทนการเจรจาหลักๆในวันนี้จะนำโดย นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ร่วมด้วย นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และนายโรเบิร์ต ไลทไธเซอร์ ตัวแทนเจรจาทางการค้า ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีจีนจะเป็นตัวแทนในการเจรจาวันนี้

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การเจรจานโยบายทางการค้าและแนวทางการค้าเสรีจะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของ WTO

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตระหนักดีว่ายังคงมีความไม่ชัดเจนระหว่างการประชุมของเขาร่วมกับทางเกาหลีเหนือ หลังจากที่ทางเกาหลีเหนือได้ขู่ว่าจะทำการถอนตัวจากการประชุมวาระนี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จทางการดำเนินนโยบายการต่างประเทศหลักๆของนายทรัมป์ได้  แต่ภาพรวมนายทรัมป์เชื่อว่าการประชุมระหว่าง 2 ประเทศจะยังมีอยู่แต่เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อสำหรับข้อเสนอที่ยื่นต่อเกาหลีเหนือในการยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์

·         รายงานจาก CNBC ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ประเมินว่า เกาหลีเหนือน่าจะไม่ประกาศยกเลิกการประชุมร่วมกับสหรัฐฯที่จะขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. นี้แต่อย่างใด แม้ทางทางเกาหลีเหนือจะได้ยกเลิกการประชุมกับเกาหลีใต้ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่พอใจที่เกาหลีใต้มีการซ้อมรบกับสหรัฐฯก็ตาม

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินว่า การยกเลิกการประชุมกับเกาหลีใต้เป็นเพียงกลยุทธ์การเจรจาของเกาหลีเหนือ โดยกลยุทธ์ได้ถูกใช้มาก่อนโดยเกาหลีเหนือในการประชุมเมื่อปี 1994 และการประชุมระหว่าง ประเทศ ในอดีตผ่านมา

·         ทนายความประจำตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะสืบสวนพิเศษประจำรัฐสภาสหรัฐฯ นำทีมโดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ น่าจะดำเนินการตามแนวทางของกระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯ ที่ระบุว่าประธานาธิบดีไม่สามารถถูกฟ้องร้องได้ ดังนั้น สิ่งที่คณะสืบสวนจะสามารถทำได้ คือการเขียนรายงานต่อรัฐสภาเท่านั้น

·         นายชัค กลาสลีย์ ประธานวุฒิสภาแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุมร่วมกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนักกฏหมายจากรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลของนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ณ ทรัมป์ทาวเวอร์ ออกสู่สาธารณชน

โดยเอกสารดังกล่าว ประกอบไปด้วยอีเมล์ ข้อความโทรศัพท์ และเอกสารอื่นๆ ที่ล้วนเป็นหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยรัฐบาลรัสเซีย ที่คณะสืบสวนพิเศษประจำรัฐสภาสหรัฐฯ นำทีมโดยนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ กำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ในปัจจุบัน

·         ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจทำการผลักดันแผนงบประมาณทางการเงินฉบับสมบูรณ์ให้แล้วเสร็จในเร็วๆนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการสร้างกำแพงพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโกตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่นโยบายดังกล่าวอาจถูกคัดค้านจากทางสภาคองเกรสตลอดจนนโยบายกลุ่มผู้อพยพด้วย

·         พรรค 5-Star Movement และพรรคฝ่ายขวาจัด ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านประจำรัฐสภาอิตาลีทั้ง 2 พรรค มีแนวโน้มว่าจะสามารถก่อตั้งรัฐบาลร่วมกันได้ จึงส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า พรรคฝ่ายค้านจะมีการเรียกร้องให้สหภาพยุโรปทำการยกหนี้สินประเทศที่มีมูลค่ากว่า 2.50 แสนล้านยูโร (2.96 แสนล้านเหรียญ) เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในด้านสวัสดิการด้านต่างๆ และอาจรวมถึงการปรับลดภาษี

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอิตาลีปรับตัวลดลงคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยดัขนี FTMIB ปิด -2.3% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 0.19% สู่ระดับ 2.13%

·         ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น แม้ว่าจะมีบางช่วงที่อ่อนตัวจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์  ขณะที่รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ และแก๊สโซลีนปรับอ่อนตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 85 เซนต์ ที่ระดับ 79.28 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 18 เซนต์ ที่ระดับ 71.49 เหรียญ/บาร์เรล


·         รายงานจาก OPEC มองว่า ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสทะยานแตะ 80 เหรียญ/บาร์เรลได้ในระยะสั้นๆ จากปัจจัยความเสี่ยงทางการเมือง และภาวะจำกัดอุปทานน้ำมัน ขณะที่ภาพรวมยังไม่มีสัญญาณว่าสมาชิกกลุ่มโอเปกจะเร่งยกเลิกหรือปรับทบทวนข้อตกลงการจำกัดภาวะอุปทานในปัจจุบัน

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com