• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2561

    18 พฤษภาคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เมื่อเทียบกบค่าเงินเยน โดยยังคงได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ดูจะสะท้อนต่อมุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลงไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 23 ม.ค. บริเวณ 110.80 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะทรงตัวที่ระดับ 110.74 เยน/ดอลลาร์ ทางด้านดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นมาบริเวณ 93.462 จุด ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดของปีนี้เพียงเล็กน้อยที่ทำไว้บริเวณ 93.632 จุด เมื่อวานนี้

อัตราผลตอบแทนสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นทำ High 3.122% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี

• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในรอบเกือบ 5 เดือนบริเวณ 1.1763 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนทรงตัวบริเวณ 1.1798 ดอลลาร์/ยูโร จากความกังวลทางการเมืองของอิตาลี หลังจากที่ พรรค 5-Star Movement และพรรคฝ่ายขวาจัดประจำรัฐสภาอิตาลี สามารถหาข้อตกลงร่วมกันที่จะจัดตั้งพรรครัฐบาลร่วม พร้อมเสนอนโยบายปรับลดภาษี รวมถึงสวัสดิการต่างๆให้กับประชาชน ด้วยการเรียกร้องให้สหภาพยุโรปยกหนี้สินให้กับอิตาลีเป็นมูลค่ากว่า 2.50 แสนล้านยูโร (2.96 แสนล้านเหรียญ) จึงอาจกลายเป็นอีกประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่มีความรุนแรงเท่ากับกรณีBrexit ได้

ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงจากระดับ 1.24 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วง 3 สัปดาห์ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ จากกลุ่มนักลงทุนที่มาเก็งกำไรเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆเริ่มมีการปรับเลื่อนเวลาการคุมเข้าทางการเงินออกไป

• นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า จ้างงานสหรัฐฯอยู่ในระดับสูงสุดหรือเข้าสู่จุดอิ่มตัว จึงอาจเห็นการจ้างงานมีโอกาสอ่อนตัวลงมากกว่าจะเป็นไปอย่างยั่งยืนได้ อย่างไรก็ดี เขายังคงเห็นด้วยกับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยอีกจำนวน 2 ครั้งในปีนี้

• สมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบี เรียกร้องให้ อีซีบีตัดสินใจไม่ใช้ระยะเวลาที่ยายนานเกินไปในการปรับนโยบายสู่ภาวะปกติ ขณะที่ QE จะหมดอายุในช่วงสิ้นปีก.ย. ดังนั้น อีซีบีจึงควรหารือถึงสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หาวิธีประนีประนอมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือมีการข่มขู่จะยกเลิกการประชุมร่วมกัน โดยระบุว่า ความมั่นคงของนายคิมจะถูกการันตีภายในข้อตกลง และประเทศเกาหลีเหนือจะไม่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับยุคของ นายโมอัมมาร์ กัดดาร์ฟี อดีตผู้นำลิเบีย นอกจากว่าทางสหรัฐฯจะเกาหลีเหนือจะไม่สามารถเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้

• หัวหน้าตัวแทนการเจรจาของเกาหลีเหนือกล่าว่าจะไม่ยอมเจรจาใดๆกับเกาหลีใต้ พร้อมตำหนิรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า “ขาดความรู้และไร้ซึ่งความสามารถ” จากกรณีการฝึกซ้อมรบร่วมกันของทางเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดการยุติการเจรจาร่วมกัน นอกจากเกาหลีใต้จะสามารถตอบสนองต่อข้อเรียกร้องทั้งหมดของเกาหลีเหนือได้

ถ้อยแถลงของหัวหน้าทีมเจรจาจากเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นหลังจากทางการเกาหลีเหนือประกาศยกเลิกการประชุมระดับสูงร่วมกับเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พึงพอใจที่ทางเกาหลีใต้มีการซ้อมรบทางอากาศร่วมกับสหรัฐฯ แม้ก่อนหน้านี้ทางการเกาหลีเหนือจะมีท่าทีที่เป็นมิตรและยินดีที่จะเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งมาโดยตลอดก็ตาม

ทางด้าน นายทรัมป์ กล่าวแต่เพียงว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” ต่อกรณีที่เกาหลีเหนือดูไม่แน่นอนว่าจะเข้าร่วมประชุมกับทางสหรัฐฯหรือไม่

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับการประชุมระหว่างตัวแทนทางการค้าจากจีนและสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศในปัจจุบัน ว่าจีนและประเทศอื่นๆ “เอาแต่ใจตัวเองในเรื่องของการค้า” มากเกินไป

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ยังได้แสดงความไม่เชื่อมั่นว่า การเจรจาดังกล่าวจะสามารถบรรลุผลที่ทำให้เขาพึงพอใจได้

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงยืนยันว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางรัฐบาลอังกฤษอาจมีการออกนโยบายที่จะขยายระยะเวลาของการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปออกไปมากกว่าปี 2020

• น้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นเหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 ก่อนจะอ่อนตัวลงจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และปริมาณผลผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่ยังคงมีการปรับเพิ่มขึ้น

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 80.50 เหรียญ ก่อนจะปิดปรับขึ้น 2 เซนต์ ที่ระดับ 79.30 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวบริเวณ 71.49 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ช่วงต้นตลาดทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 บริเวณ 72.30 เหรียญ

• บรรดาผู้ค้าปลีกน้ำมันในสหรัฐฯ และบรรดานักลงทุน เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ว่าอาจจะกลายปัจจัยกดดันค่าใช้จ่ายของประชาชนชาวสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ผลประกอบการของผู้ค้าน้ำมันถูกกดดันลงมา ขณะที่บรรดาผู้ประกอบการน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐฯ ได้มีการประชุมขึ้นในเมืองฮูสตันของรัฐเท็กซัส ที่อาจมีการตกลงร่วมกันที่จะปรับลดกำลังคนลงเพื่อรักษาผลประกอบการ ดั่งเช่น ในปี 2014 ที่บรรดาผู้ประกอบการน้ำมันมีการปรับลดกำลังคนลง จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างมาก

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com