· ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 75.05 จุด คิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 23,811.76 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.2% ที่ระดับ 2,727.76 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.02% ที่ระดับ 7,424.43 จุด
โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงหลังผู้นำสหรัฐฯประกาศยกเลิกการประชุมกับผู้นำเกาหลีเหนือ ประกอบกับข่าวที่สหรัฐฯกำลังพิจารณาแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ จึงจำกัดการปรับตัวขึ้นของหุ้นบริษัท Netflix และGeneral Electric และการปรับลงของตลาดหุ้นดังกล่าว นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเพียงการตอบรับลักษณะ Knee-jerk กับข่าวการยกเลิกการประชุม
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบจากความกังวลทางการเมืองหลังจากที่นายทรัมป์ ประกาศยกเลิกการเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.11% ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.53% และดัชนีS&P/ASX200 เปิด -0.28% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังร่วงลงต่อในเช้านี้
· นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.95-32.10 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินตลาดเกิดใหม่ฟื้นตัวแข็งค่าตามยูโรที่มีแรงซื้อกลับเข้ามา ขณะที่มี flow ไหลออกจากตลาดหุ้น แต่ก็มีไหลเข้าตลาดพันธบัตร
· กระทรวงการคลังของไทย เตรียมทบทวนจีดีพีไทยในปี 2561 ใหม่ โดยคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มเป็น 4.5% สูงสุดในรอบ 6 ปี จากปัจจุบันคาดขยายตัวที่ 4.2% หลังสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัว 4.8% เติบโตมากกว่าคาดการณ์
· ธปท. ระบุสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องจับตาต่อไป เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นได้อีก ขณะที่ประเทศไทยมีความต้องการใช้น้ำมันค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับระดับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นเมื่อน้ำมันมีราคาสูงขึ้นย่อมจะส่งผลกระทบต่อการบริโภค รวมทั้งต้นทุนธุรกิจ และต้นทุนทางเศรษฐกิจที่จะต้องสูงขึ้นด้วย