MTS Help Center

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับแข็งค่าขึ้นได้มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย. ท่ามกลางค่าเงินในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับอ่อนค่าลงจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ความกังวลทางการเมืองในสเปนและอิตาลีได้สร้างแรงกดดันให้ค่าเงินยูโรนั้นอ่อนค่า

ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.44% ที่ระดับ 94.166 จุด หลังขึ้นไปทำ High นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ย. ปีที่แล้วบริเวณ 94.249 จุด และสัปดาห์ที่แล้วขยับขึ้นได้ 0.6%

·         นายเปโดน แซนเชส ผู้นำพรรคสังคมนิยมของสเปนประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าอาจทำการเลือกตั้งหลังประกาศยุบสภา หากประสบความสำเร็จในการกดดันให้เกิดการโหวตไม่เชื่อใจนายมาเรียโน ราจอย นายกรัฐมนตรีสเปน เกี่ยวกับคดีการโกงกิน

ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดให้เกิดแรงเทขายเข้ามาในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นของสเปน ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลีได้ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าไปที่ระดับ 1.16454 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว และทำให้สัปดาห์ที่แล้วค่าเงินยูโรร่วงลงไปรวม 1% ก่อนที่เช้านี้จะดีดกลับได้ 0.35% ที่ระดับ 1.1693 ดอลลาร์/ยูโร

·         สมาชิกเฟดหลายราย กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า แผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่พวกเขาก็จะตัดสินใจด้วยความรอบคอบว่า ระดับดอกเบี้ยที่อยู่ใกล้ “Neutral” จะช่วยหนุนเศรษฐกิจหรือส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว

นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า และนายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก และนายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เฟดควรหารือกันในเรื่องที่ระดับดอกเบี้ยใกล้สู่ Neutral Rate อันประกอบไปด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจต่างๆ รวมถึงรูปแบบของเส้นอัตราผลตอบแทนหรือ Yield Curve ขณะที่อัตราคนว่างงานที่ระดับ  3.9% ยังคงเป็นระดับต่ำสุดรอบ 17 ปีครึ่ง ประกอบกับเงินเฟ้อที่เข้าใกล้เป้าหมาย 2% ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดต่างยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรักษาเศรษฐกิจให้พ้นจากสภาวะ Overheating โดยปราศจากการกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวล ประธานเฟดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้กล่าวเกี่ยวกับ การประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธนาคารกลาง ภายใต้นโยบายการเงินหลังผ่านพ้นวิกฤติทางการเงิน อย่างไรก็ตาม นายโพเวลไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

·         นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือน่าจะยังเกิดขึ้นได้ที่ประเทศสิงคโปร์ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 12 มิ.ย.  ขณะที่ล่าสุดทีมตัวแทนการเจรจาของสหรัฐฯได้เดินทางไปถึงบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่เขตปลอดทหารหมู่บ้านปันจุมมอน เพื่อเจรจากับตัวแทนของเกาหลีเหนือ หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมระหว่างเขากับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยนายทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า ตัวแทนการเจรจาได้เดินทางไปเจรจากับทางเกาหลีเหนือโดยตรง เพื่อพยายามจัดการประชุมร่วมกันระหว่างเขาและนายคิมขึ้นมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทางการเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้มีการเจรจาร่วมกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทางเกาหลีเหนือจะยินยอมเจรจากับสหรัฐฯอีกครั้ง รวมถึงแก้ไขข้อข้องใจของเกาหลีเหนือก่อนหน้าการประชุมกับสหรัฐฯ ซึ่งทางนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ยินยันว่า เกาหลีเหนือยังคงมีความประสงค์ที่จะเจรจากับสหรัฐฯอยู่

ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้แสดงความหวังว่าการประชุมสุดยอดระหว่างนายทรัมป์และนายคิม จะยังสามารถเกิดขึ้นได้ในวันที่ 12 มิ.ย.และประสบความสำเร็จ ตามที่เคยวางแผนเอาไว้

·         รายงานจากสำนักงานสถิติจีน NBS แสดงให้เห็นว่า ผลกำไรในภาคบริษัทอุตสาหกรรมของจีนเดือนเม.ย.ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบ 6 เดือน โดยปรับขึ้น 21.9% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 5.76 แสนล้านหยวน (9.014 หมื่นล้านเหรียญ) จึงส่งผลให้ภาพรวม 4 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวได้ 15% โดยภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง จึงยังบ่งชี้ถึงความแข็งแรงในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน แม้ว่าจะถูกจำกัดด้วยมาตรการมลพิษทางอากาศ และความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯก็ตาม

·         ความพยายามในการก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านในอิตาลีประสบความล้มเหลว หลังจากนายเซอร์จิโอ แมตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ปฏิเสธนายเปาโล ซาโวนา ไม่ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อแสดงจุดยืนว่านายเซอร์จิโอยังคงเชื่อมั่นสกุลเงินยูโร

ขณะที่ทางนายจูเซปเป คอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ประกาศยกเลิกความพยายามที่ก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาล

·         นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประสบความขัดแย้งระหว่างบรรดารัฐมนตรีในพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอเอง หลังจากที่นางเมย์ปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนการปฏิรูปกฏหมายว่าด้วยการทำแท้ง ที่พรรคไอร์แลนด์เหนือเป็นผู้เสนอขึ้น

·         กระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าอุปทานน้ำมันในตลาดจะปรับสูงขึ้นได้เข้ากดดันให้ราคาน้ำมันดิบวันศุกร์ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ตลาดยังถูกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จึงทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานนั้นปรับตัวลดลงตาม โดยราคาน้ำมันดิบBrent ปิดลดลง 2.35 เหรียญ คิดเป็น –3% ที่ระดับ 76.44 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย เผยว่าพร้อมจะชะลอการปรับลดกำลังการผลิตหลังจากที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014

ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับลง 2.83 เหรียญ หรือคิดเป็น -4% ที่ระดับ 67.88 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงไปประมาณ 2.7% ขณะที่ WTI สัปดาห์ที่แล้วร่วงลง 4.9%

·         รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยว่า อาจปรับระดับการผลิตน้ำมันให้เข้าสู่ระดับเดียวกับช่วง ต.ค. ปี 2016 หลังจากที่ปัจจุบันปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงร่วมกับกลุ่มโอเปก  โดยคาดว่าจะทำการตัดสินใจในการประชุมเดือนหน้าระหว่างวันที่ 22 – 23 มิ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมของสมาชิกโอเปกและนอกโอเปก