MTS Help Center

ทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กอีก 25% และอลูมิเนียมอีก 10% จากประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึงบรรดาประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นคราวคืบหน้าล่าสุดในการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าของนายทรัมป์

ขณะที่นายวิลบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่านโยบายขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจะมีผลบังคับใช้ภายในวันนี้ ถึงแม้ประเทศพันธมิตรบางส่วนจะได้รับการละเว้นภาษีดังกล่าว แต่การยกเว้นนั้นก็จะหมดอายุลงภายในคืนนี้เช่นกัน ขณะที่บางประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อาร์เจรติน่า อสสเตรเรีย และบราซิล จะถูกจำกัดปริมาณการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมสู่สหรัฐฯ   

ภายหลังจากการประกาศ สหรัฐฯได้รับเสียงคัดค้านอย่างรุนแรงจากบรรดาประเทศพันธมิตร โดยนายฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ประนามนโยบายภาษีดังกล่าว ว่า “ไร้ซึ่งความยุติธรรม” และระบุว่าทางสหภาพยุโรปจะมีการออกมาตรการมาตอบโต้ในอีกไม่กี่ ช.ม. ขณะที่ทางโฆษกประจำรัฐบาลอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่าทางการอังกฤษ “ผิดหวังอย่างมาก” ต่อการตัดสินของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯพิจารณามอบสิทธิในการได้รับการละเว้นภาษีแก่ประเทศพันธมิตรแบบถาวร นอกจากนี้ ตัวแทนจากทางการเม็กซิโกก็ได้ประกาศว่าจะมีการออกนโยบายตอบโต้สหรัฐฯเช่นกัน  

ทางด้านนายทรัมป์ หลังจากที่มีการประกาศขึ้นภาษี ก็ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา โดยระบุว่า เขาเห็นด้วยกับแนวคิดของนายรอส ว่าการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากต่างชาติเข้าสู่สหรัฐฯ มีปริมาณที่มหาศาลมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศได้ ขณะที่บรรดาผู้ประกอบการเกี่ยวกับเหล็กและอลูมิเนียมรายใหญ่ในสหรัฐฯอย่าง U.S. Steel และ AK Steel  ก็ได้ออกมากล่าวสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวของนายทรัมป์