· ค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับแข็งค่าขึ้นต่อเล็กน้อยหลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นอีก 0.15% บริเวณ 94.029 จุด หลังจากที่ปรับขึ้นมาได้ 0.2% เมื่อวันศุกร์
ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับแข็งค่าขึ้น 0.15% บริเวณ 109.660 เยน/ดอลลาร์ หลังจากปรับขึ้นมาได้ 0.6% เมื่อวันศุกร์
ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% บริเวณ 1.1685 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปรับอ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์
· รายงานจากทางการสหรัฐฯเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้มีการสั่งปลดเจ้าหน้าที่ทางการทหารระดับสูง 3 ตำแหน่ง ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ออกมาประเมินว่า เป็นหนึ่งในแผนการปฏิรูปประเทศโดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจแทนการทหารมากขึ้น
· สถาบันจัดอันดับ Fitch Ratings ประเมินว่า ปัจจัยความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจีนที่สำคัญที่สุด ณ ปัจจุบัน คือการต่อสู้กับหนี้สินครัวเรือนของรัฐบาล ที่อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังบรรดาตลาดเกิดใหม่ที่พึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก
ทั้งนี้ สถาบัน Fitch ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.5% ในภาพระยะกลาง
· รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ยืนยันว่าทางการจีนยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในหัวข้อหลักๆ
· นายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีแนวโน้มจะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยตรงในช่วงเดือน ก.ย. โดยอาจเกิดขึ้นในเมืองวลาดีวอสตอค (Vladivostok) ทางฝั่งตะวันออกของรัสเซีย
· ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันนี้ ท่ามกลางปริมาณการผลิตน้ำมันวหรัฐฯที่เพิม่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และหลุ่มสมาชิกโอเปกได้พิจารณาการเพิ่มอุปทานเพื่อสร้างความสมดุลให้แก่ปริมาณความต้องการของโลกที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวที่ระดับ 76.79 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 5 เซนต์ ที่ระดับ 65.86 เหรียญ/บาร์เรล