· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่บริเวณ 1,298.98 เหรียญ ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ดีกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
· ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปรับลดลง 0.1% แถวระดับ 1,303.10 เหรียญ
· ดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.2% ที่บริเวณ 93.705 จุด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลร่วงลงเมื่อวานนี้ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่หันหล้าเข้ามาลงทุนในหนี้รัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ หลังจากที่รัฐบาลใหม่ของอิตาลีไม่มีแผนที่จะปรับลดค่าใช้จ่ายภายในประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ภาระหนี้ของประเทศพุ่งสูงขึ้นได้
· หัวหน้านักวิจัยการเงินประจำฮ่องกง ระบุว่า ความตึงเครียดทางการเมืองช่วยหนุนราคาทองคำ ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ จึงส่งผลให้การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำเป็นไปได้อย่างจำกัด
· นักวิเคราะห์จาก OCBC ระบุว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อยช่วยหนุนราคาทองคำ
· ขณะที่เม็กซิโก ประกาศจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อหมูของสหรัฐฯ ที่รวมถึงเนื้อส่วนสันคอและเนื้อส่วนขา ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสดหรือเนื้อแช่แข็ง เพื่อตอบโต้มาตรการกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ
· นาย นายแลร์รี คุดโลว์ ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้แสดงความต้องการที่จะยกเลิกข้อตกลง NAFTA ทั้งหมด และพยายามเจรจาการค้าระดับทวิภาคีกับแคนาดาและเม็กซิโกแทน
· ราคาซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% ที่ระดับ 16.55 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 903.50 เหรียญ และราคาพลาลาเดียมปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 994.50 เหรียญ