· ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.09% แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 93.888 จุด ก่อนหน้าการประชุมเฟดคืนนี้ ที่คาดว่าเฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดจะจับตาดูสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับแข็งค่าขึ้น 0.25% ที่บริเวณ 110.660 เยน/ดอลลาร์ โดยทำระดับสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 110.68 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 23 พ.ค.
สำหรับค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.1745 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากอ่อนค่าลงมา 0.35% เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าทิศทางในระยะสั้นของค่าเงินยูโรจะเห็นได้ชัดขึ้นหลังจากการประชุมเฟดและอีซีบีในสัปดาห์นี้
· รายงานจาก DailyFX สะท้อนว่า จุดสนใจของตลาดกลับมาอยู่ที่การประชุม FOMC อีกครั้ง โดยอัตราดอกเบี้ยถูกคาดว่าจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็กำลังรอสัญญาณชี้นำว่าจะส่งผลให้ตลาดเคลื่อนไหวไปทางใด ซึ่งผลสำรวจกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ยังคงฟื้นตัว และช่วยเพิ่มแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 2 นี้ จึงอาจส่งผลให้เฟดส่งสัญญาณคุมเข้มทางการเงิน และนั่นดูจะเป็นผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์
· อัตราผลตอบแทนพัธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 2 ปี ปรับร่วงลง 0.14% ลงมาต่ำกว่าระดับ 1% ที่บริเวณ 0.90% หลังจากนายเปาโล ซาโวนา รัฐมนตรีกระทรวงกิจการสหภาพยุโรป กล่าวว่า ค่าเงินยูโรยังคงมีความจำเป็นต่ออิตาลี และยืนยันว่าเขาไม่เคยกล่าวจะนำอิตาลีออกจากระบบเงินยูโร
· นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้เปิดเผยผ่านสำนักข่าวของเกาหลีเหนือหลังจากที่เขาเดินทางกลับมาจากประชุมในประเทศสิงคโปร์ โดยระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอจะผ่อนคลายการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้เบาบางลง ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวของนายทรัมป์ที่ระบุว่าการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือจะยังคงอยู่ต่อไป
· สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้เห็นว่า การระงับการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯอาจมีความจำเป็นต่อการโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือหยุดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างยั่งยืน
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปทานที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯและกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปกอาจจะชะลอการปรับลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ร่วงลง 35 เซนต์ ที่ระดับ 75.53 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 40 เซนต์ ที่บริเวณ 65.96 เหรียญ/บาร์เรล