· ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 103.01 จุด คิดเป็น -0.41% ที่ระดับ 24,987.47 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.21% ที่ระดับ 2,773.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.01% ที่ระดับ 7,747.03 จุด
ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวลง แต่ก็ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ช่วยจำกัดการปรับตกลงตามกระแสความกังวลเกี่ยวกับ Trade War จากการที่จีนจะทำการตอบโต้มาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานจากการที่นายทรัมป์ประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นหากจีนทำการตอบโต้สหรัฐฯ จึงยิ่งสร้างข้อขัดแย้งทางการค้าให้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.44% ขณะที่หุ้นออสเตรเลียเปิด -0.31% ในเช้าวันนี้
· นักบริหารการเงิน คาดการณ์แนวโน้มการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทอยู่ในกรอบระหว่าง 32.55-32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน สอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินภูมิภาคหลังอีซีบี ส่งสัญญาณเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อค่าเงินเงินดอลลาร์
· กนง. น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ต่อปี ในการประชุม กนง.วันที่ 20 มิ.ย. 2561 นี้ แต่จุดสนใจของการประชุมคงอยู่ที่การประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยสภาวะเศรษฐกิจไทยมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคการบริโภคและการลงทุน จากตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1/2561 ที่สะท้อนถึงการขยายตัวเพิ่มขึ้นขององค์ประกอบGDP ในทุกองค์ประกอบ ขณะที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 1.0-4.0 ทั้งนี้ หากภาพเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2561 ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตไว้ได้อย่างต่อเนื่อง กนง. อาจจะมีการพิจารณาทบทวนถึงความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจไทย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของภาพตลาดการเงินของโลกในระยะข้างหน้า